สำนักงานกองสลาก ย้ำ 4 วิธีคัดกรองผู้ค้ารายเดิม 1.3 แสนคน เพื่อความถูกต้อง



  • เปิดให้จังหวัดส่งข้อมูลผู้ค้า
  • ใช้คิวอาร์ แอป เป๋าตัง
  • ตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีการประสานความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดให้ช่วยตรวจสอบรายชื่อในกลุ่มผู้ค้าเดิม130,000  คน ว่า เป็นหนึ่งในกระบวนการเก็บข้อมูลเพื่อใช้ตรวจสอบเท่านั้น โดยสำนักงานสลาก ไม่ได้ใช้ข้อมูลนี้ข้อมูลเดียวมาตัดสินชี้ขาดการตัดสิทธิ์ผู้ค้า เพราะจะมีอีก 3 วิธีมาใช้ประกอบการตรวจสอบด้วย ได้แก่ การเปิดให้สแกนคิวอาร์โค้ด  การซื้อขายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังและถุงเงิน และการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“ที่สำคัญขั้นตอนการขอข้อมูลรายชื่อจากผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานสลากไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาว่าจะต้องส่งข้อมูลภายในวันที่ 30 หรือ 31 มี.ค.65 เท่านั้้น โดยแต่ละจังหวัดสามารถส่งข้อมูลมาเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง และเท่าที่ทราบทางจังหวัดก็มีข้อมูลของผู้ค้าสลาก ที่เป็นตัวจริงส่วนหนึ่งอยู่แล้ว”

สำหรับสาเหตุที่สำนักงานสลาก ต้องมีการใช้วิธีการตรวจสอบผู้ค้าสลากเดิมถึง 4 วิธี เนื่องจากต้องการให้ได้แหล่งข้อมูลที่หลากหลาย  ไม่ให้รายชื่อผู้ค้าสลากเดิมมีการตกหล่น ซึ่งไม่ใช่มีเป้าหมายเพื่อมุ่งแต่จะตัดสิทธิ์ผู้ค้าแต่อย่างใด ดังนั้นผู้ค้าสลากที่เป็นตัวจริงและขายราคาใบละ 80 บาท ไม่ต้องกังวล  เพราะสำนักงานสลากฯให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่

สำหรับกระบวนการที่สำนักงานสลากฯ จะให้น้ำหนักมากที่สุดคือการประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลและภูธรทั่วประเทศช่วยลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูล ตรวจสอบหาผู้ขายตัวจริง เพราะวิธีนี้จะสามารถเห็นตัวผู้ค้าสลาก ที่ชัดเจนที่สุด ดูว่าใครขายอยู่จริง และขายในราคา 80 บาทหรือไม่ 

“วิธีการให้ผู้ค้าสแกนคิวอาร์โค้ด หรือทำการซื้อขายผ่านแอป เป๋าตังและถุงเงิน ก็เป็นอีกวิธีที่จะเข้ามาช่วยยืนยันในการหาตัวผู้ค้า  ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานสลากก็ได้มีการผ่อนปรนให้กับผู้ค้าที่ยังไม่พร้อมเรื่องเทคโนโลยี โดยให้เปลี่ยนวันการตรวจสอบในงวดวันที่ 16 มี.ค.-16 เม.ย. ให้เป็นการทดลองสแกนไปพรางๆก่อน และจะกำหนดวันเวลาที่ชัดเจนอีกอครั้ง ดังนั้นผู้ค้ารายใดที่ยังไม่ได้เข้าร่วมการซื้อขาผ่านแอปเป๋าตัง ก็สามารถสมัครแอปฯถุงเงินได้