สาธารณสุข ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ก้าวข้ามความท้าทายโควิด 19 สู่ระบบสุขภาพดิจิทัล วิถีใหม่



  • ส่งเสริมให้โรงพยาบาลทั่วประเทศพัฒนาการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ
  • ก้าวข้ามความท้าทายหลังทั่วโลกประสบวิกฤตโควิด 19
  • เชื่อมโยงข้อมูลในพื้นที่ มีระบบการจัดการข้อมูลที่ปลอดภัย อำนวยความสะดวกประชาชน

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเปิดการประชุมระดับชาติด้านเวชสารสนเทศ ครั้งที่ 9 และการประชุมวิชาการสมาคมเวชสารสนเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2563 ซึ่งจัดต่อเนื่องมา 29 ปี ว่า สำหรับปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ระบบสุขภาพดิจิทัล : วิถีใหม่ (Digital Health : New Normal) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำเสนอผลงานวิชาการด้านเทคโนโลยีเวชสารสนเทศทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยมีแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักสถิติ คณะกรรมการสมาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมจำนวน 366 คน พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้โรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพระบบเทคโนโลยีสารสนเทศโรงพยาบาล ใช้ทรัพยากรและการจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ผ่านการรับรองระดับ 1 โรงพยาบาลสมเด็จพระญาณสังวร จ.เชียงราย และโรงพยาบาลแม่สาย จ.เชียงราย ผ่านการรับรองระดับ 2 และโรงพยาบาลน่าน ผ่านการรับรองระดับ 3 (ขั้นก้าวหน้า)

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ ก้าวข้ามความท้าทายหลังทั่วโลกประสบวิกฤตโควิด 19 นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการบริการประชาชน เป็นระบบสุขภาพดิจิทัล แบบวิถีใหม่ Digital Health : New Normal อำนวยความสะดวก มีความปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ โดยมีการเชื่อมโยงข้อมูลในพื้นที่ และระบบการจัดการข้อมูลที่ปลอดภัย ลดปัญหาการถูกโจมตีข้อมูล และมีการนำข้อมูลไปใช้วางแผนดูแลรักษาและปัญหาสุขภาพในอนาคต อาทิ โรคเรื้อรัง สังคมผู้สูงอายุ และภาวะแทรกซ้อนในโรคอื่นๆ รวมทั้งนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยในการรักษา อาทิ การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ระบบส่งยาผู้ป่วยที่บ้าน เป็นต้น แก้ไขปัญหาลดการมาโรงพยาบาล ลดแออัด และลดเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้เป็นอย่างดี

“ผมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ให้นโยบายว่าเราจะเดินหน้าให้เป็น National Health Platform ซึ่งอาจจะฟังดูยาก แต่ก็ต้องทำ เพื่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และความก้าวหน้าทางการแพทย์ ประชาชนจะได้ประโยชน์ในการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพตัวเอง รวมทั้งเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความร่วมมือในการสร้างศักยภาพ ทั้งคุณภาพการรักษาและการให้บริการ เกิดประโยชน์กับผู้รับบริการสูงสุด เรียกความเชื่อมั่นจากชาวต่างชาติให้เข้ามาลงทุนด้านสุขภาพ”