“สาธารณสุข”ย้ำหนักแน่น!ไม่ปิดกั้นภาคเอกชน จัดหาวัคซีนโควิด 19



  • ไตรมาส4ปีนี้มีหลายบริษัทจะเร่ิมนำเข้า
  • การจัดซื้อวัคซีนเปิดเผยข้อมูลโปร่งใสเสมอ
  • มิ.ย.นี้ “แอสตร้าเซนเนก้า” ทยอยส่งมอบ

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค  กล่าวว่า สำหรับการจัดหาวัคซีนโควิด 19 รัฐบาลมอบให้กระทรวงสาธารณสุข จัดหาวัคซีนฉีดให้แก่ประชาชนด้วยความสมัครใจไม่คิดมูลค่า เพื่อป้องกันควบคุมโรคและลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต โดยวัคซีนหลักของประเทศไทยคือวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่จะทยอยส่งมอบจำนวนมากในช่วงเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป ร่วมกับวัคซีนอื่นที่จะจัดหามาเพิ่มเติม 

ล่าสุด ศบค.ชุดใหญ่ได้เห็นชอบแผนการกระจายวัคซีนแล้ว แต่จากการระบาดของโรคโควิด 19 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงเร่งรัดจัดหาวัคซีนล่วงหน้าก่อนแผนหลักเพื่อมาควบคุมการแพร่ระบาดตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2564 กระจายวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ 2.6 ล้านโดส สามารถฉีดได้ 2.5 ล้านโดส แสดงถึงศักยภาพการฉีดของประเทศไทย แม้จะดูว่าตัวเลขการฉีดน้อยในเวลานี้ แต่เมื่อมีการฉีดวัคซีนตามแผนหลักคาดว่าจะฉีดวัคซีนได้เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว

ส่วนที่มีการสอบถามว่าภาคเอกชนนำวัคซีนเข้ามาได้หรือไม่ เนื่องจากขณะนี้มีวัคซีนโควิด 19 ขึ้นทะเบียนในภาวะฉุกเฉินจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว 4 ราย คือ แอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และโมเดอร์นา ยังมีอีกหลายรายที่รอขึ้นทะเบียน เช่น ไฟเซอร์ เป็นต้น ดังนั้น ภาคเอกชนต่างๆ สามารถจัดหาวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.แล้วเข้ามาในประเทศไทยได้ แต่ที่ผ่านมาบริษัทผู้ผลิตวัคซีนต้องการขายให้ภาครัฐโดยตรง ถือเป็นสิทธิของผู้ขาย คณะกรรมการด้านวัคซีนทางเลือกจึงมอบหมายให้องค์การเภสัชกรรมอำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชนในการเจรจานำวัคซีนเข้ามา จะเห็นว่าไม่เคยมีการปิดกั้นการนำวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนแล้วเข้ามาในประเทศไทย

“จากการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนหลายราย ส่วนใหญ่จะส่งมอบวัคซีนให้ได้ในไตรมาสที่ 4 หรือประมาณเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งมีข่าวดีว่าหลายบริษัทจะเริ่มมีการนำวัคซีนจากแหล่งอื่นๆ มาให้ประเทศไทย อาจได้วัคซีนเข้ามาอีกหลายตัว หากมีความชัดเจนจะรายงานความคืบหน้าต่อไป และย้ำว่าการจัดซื้อวัคซีนมีการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ เพื่อความโปร่งใสเสมอ”

#Thejournalistclub #วัคซีนโควิด19 #สาธารณสุข #โควิด