สหรัฐฯเลื่อนเก็บภาษีจีนรายการสำคัญ ดันดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 372 จุด

  • ชะลอเก็บภาษีมือถือ-คอมพิวเตอร์-รองเท้า-เสื้อผ้า
  • ดันหุ้นเทคโนโลยี-หุ้นบริษัทลงทุนในจีนพุ่งขึ้น
  • “ทรัมป์”ระบุไม่อยากให้กระทบใช้จ่ายคริสต์มาส

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์วันที่ 13 ส.ค.ปิดย่อลงเล็กน้อย หลังจากบวกแรงระหว่างวันกว่า 500 จุด โดยปิดที่ 26,279.91 จุด เพิ่มขึ้น 372.54 จุด หรือ +1.44% ขณะที่ดัชนีแนสแด็กส์ คอมโพซิส ปิดที่ 8,016.36 จุด เพิ่มขึ้น 152.95 จุด หรือ +1.95% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,926.32 จุด เพิ่มขึ้น 42.57 จุด หรือ +1.48%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นหลังจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ประกาศชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. จากเดิมที่มีกำหนดในวันที่ 1 ก.ย. โดยสินค้าที่ได้รับการชะลอการจัดเก็บภาษี ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปวิดีโอเกม ของเล่น จอมอนิเตอร์ รองเท้า และเสื้อผ้า

นอกจากนี้ USTR ยังประกาศถอดสินค้าบางประเภทออกจากบัญชีรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ โดยระบุถึงปัจจัยด้านสุขภาพ, ความปลอดภัย และความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งสินค้าดังกล่าวจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10%

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า การที่เขาตัดสินใจชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของชาวสหรัฐในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิพดีดตัวขึ้นขานรับข่าวสหรัฐชะลอการเก็บภาษีสินค้าจีน โดยโดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นของบริษัทที่เข้าไปลงทุนจำนวนมากในประเทศจีน เช่น แอปเปิล และอินเทล โดยหุ้นแอปเปิล ทะยานขึ้น 4.2% หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นบรอดคอม ดีดตัวขึ้น 2.9% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 4.8% หุ้น Nvidia ทะยานขึ้น 3.04% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 2.07% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 1.9% หุ้นเน็ตฟลิตซ์ เพิ่มขึ้น 0.47% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 2.2%

เช่นเดียวกับหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้น JD.com และหุ้น NetEase พุ่งขึ้น 12.89% และ 10.93% ตามลำดับ

หุ้นไนกี้ พุ่งขึ้น 2% หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เพิ่มขึ้น 1.05% หุ้นเป๊ปซี่โค เพิ่มขึ้น 1.2% หุ้นโคคา-โคลา เพิ่มขึ้น 0.5% หุ้นฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชันแนล พุ่งขึ้น 1.8% ส่วนสองผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ของสหรัฐ และหุ้นแฮสโบร พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นแมทเทล พุ่งขึ้น 4.6%