สสจ.ชัยภูมิแจงดราม่า ห้ามบุคลากรโพสต์ยินดีฉีดวัคซีนไฟเซอร์ หวั่นกระทบความรู้สึกประชาชน



วันที่ 15 สิงหาคม2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดกรณีดราม่าบนโลกโซเชียล และสื่อออนไลน์ต่างๆ ถึงการออกหนังสือไปถึงโรงพยาบาลทุกอำเภอในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เรื่องให้ ผอ.รพ.ในสังกัดแจ้งเตือนบุคลากรเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ช่วยกำชับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Prizer) เข็มที่ 3 ให้กับกลุ่มอื่น และไม่ให้โพสต์หรือให้ลบรูปที่โชว์ในช่องทางโซเชียลต่างๆ จนมีผู้เอาหนังสือฉบับดังกล่าวไปตีความหมายอย่างที่ต้องการสื่อออกไป จนกลับกลายเป็นเรื่องดราม่าไปต่างๆ นานา หรือทัวร์ลงในขณะนี้จากทั่วประเทศ

ล่าสุด นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ได้ขออัดคลิปตัวเองพร้อมทั้งขออธิบายชี้แจงข้อเท็จจริงและวัตถุประสงค์หรือเจตนาในการสื่อความหมายไปยังเจ้าหน้าที่บุคลากรของสำนักงานสาธารณสุข จ.ชัยภูมิ โดยได้ออกหนังสือเรื่อง ให้ตรวจสอบข้อมูลรับบริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Prizer) ไปถึง ผอ.โรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ในการออกหนังสือฉบับนี้ เป็นการออกหนังสือเพื่อให้มีการ พิจารณา และตรวจสอบก่อนมอบวัคซีนไฟเซอร์ (Prizer) เข็มที่ 3 อย่างเข้มงวด เนื่องจากการฉีดวัคซีนนี้ควรให้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าตามรายชื่อที่แจ้งมาก่อนเท่านั้น ซึ่งยังมี บุคลากรที่ไม่มีรายชื่อไว้ประมาณ 700-800 คน ที่ยังไม่ลงรายชื่อไว้เราได้รวบรวมรายชื่อส่งขอวัคซีนไปยังกระทรวงสาธารณสุขแล้ว

โดยประเด็นที่ 1 คือ การออกหนังสือคำสั่งไปถึง ผอ.โรงพยาบาลทุกอำเภอในสังกัดสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ช่วยพิจารณาการแจกจ่ายอย่างรัดกุม เพื่อเก็บไว้ให้บุคลากรทางการแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อสูงจากการทำงาน โดยไม่ต้องการให้มีการรั่วไหลของวัคซีนนำออกไปฉีดให้กับบุคคล องค์กรอื่นที่ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องฉีดในตอนนี้

ประเด็นที่ 2.คือห้ามบุคลากรเจ้าหน้าที่ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แล้วนำรูปภาพของตนเองออกไปโพสต์หรือใส่ข้อความใดๆ ออกไปบนโลกโซเชียล เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนในเข็มที่ 3 ก็เพื่อไม่ต้องการให้มีความเหลื่อมล้ำ โดยจะเกิดมีการเปรียบเทียบ ความรู้สึกของสังคมและประชาชน จากการที่บุคลากรและเจ้าหน้าที่ด่านหน้านำภาพได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ในเข็มที่ 3 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเกิดการเปรียบเทียบและจะเป็นการเหลื่อมล้ำ ในทันที ในขณะที่สังคมและประชาชนส่วนใหญ่ยังรอคอยเข้ารับการฉีดวัคซีน ในเข็มที่ 1 จากทางรัฐบาล

ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็กำลังเร่งจัดหาอยู่และในหลายจังหวัดรวมทั้งจังหวัดชัยภูมิ มีการฉีดวัคซีนน้อยอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงวันนี้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ มีประชาชนชาวชัยภูมิได้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้วเพียง 10% ของประชากรทั้งหมด การที่มีบุคลากรหรือเจ้าหน้าที่ ที่จัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสัมผัสได้รับการฉีดในเข็มที่ 3 แล้ว และถ้าหากนำออกไปโพสต์ในโลกโซเชียลและใส่ข้อความรูปภาพสื่อไปถึงการใส่ข้อความชื่นชมยินดีก็อาจจะถูกสังคมและประชาชนนำไปเป็นการเปรียบเทียบแตกต่าง รู้สึกด้อยโอกาส เขาเองยังไม่ได้ฉีดเข็ม 1 เลย แต่ว่าบางส่วนได้เข็ม 3 ไปแล้ว แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าบุคลากรทางการแพทย์จำเป็นที่จะต้องได้รับเป็นบุคลากรด่านหน้าที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ซึ่งความหมาย หรือหนังสือนี้ ตนเองก็เป็นคนร่างหนังสือฉบับนี้และเป็นคนตรวจสอบเองอีกด้วย

จากกรณีดังกล่าวที่อาจจะมีผู้นำหนังสือฉบับนี้ไปตีความหรือเข้าใจคลาดเคลื่อนในความหมายที่ตนเองต้องการจะสื่อไปถึงบุคลากรในสังกัดได้คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนไว้ด้วย ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ในการออกหนังสือฉบับนี้เท่านั้นเองโดยไม่ได้มีอะไรแอบแฝงแต่อย่างไรเลย ในครั้งนี้ก็เพราะห่วงความรู้สึกของประชาชนเป็นหลักในครั้งนี้ด้วย