นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ธ.ค.63) ตนได้ไปพบกับ นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกาเพื่ออวยพรและสวัสดีปีใหม่ เพราะท่านเป็นประมุขฝ่ายตุลาการ ซึ่งต้องทำงานประสานในด้านกระบวนการยุติธรรมและยังได้หารือถึงการออกหมายสำหรับผู้ต้องขังที่ได้รับการพระราชทานลดโทษและอภัยโทษที่มีทั้งหมดประมาณ200,000-300,000 คน โดยปกติเมื่อมีการพระราชทานอภัยโทษทุกเรือนจำต้องส่งหมายไปให้ศาลแก้ไขโทษของผู้ต้องขัง ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นงานที่เพิ่มขึ้นของศาล และตามกระบวนการปกติจะใช้เวลาประมาณ 120 วัน ตนจึงไปแจ้งให้รับทราบ และขอให้ดำเนินการในส่วนของการออกหมายที่ได้รับการปล่อยตัว และพักโทษก่อน เพราะเกี่ยวเนื่องกับการระบายผู้ต้องขังเพื่อเป็นการลดความแออัดในเรือนจำด้วย ซึ่งท่านไม่มีปัญหาในเรื่องนี้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการหารือกันถึงการไต่สวนผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เร็นซ์ เพื่อไม่ต้องให้ผู้ต้องขังออกนอกเรือนจำไปศาล เพื่อลดความเสี่ยงโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงฯ ได้ทำเรื่องไปยังศาลแล้ว และมีการเตรียมพร้อมของอุปกรณ์แล้ว แต่ขณะนี้ได้ขอเพิ่มอุปกรณ์การคอนเฟอร์เร็นซ์ไปอีก 55 ชุด เพื่อเพิ่มช่องทางในการทำงานไต่สวน เพราะบางครั้งมีการไต่สวนพร้อมกันหลายคดี
“ส่วนเรื่องสุดท้ายที่ได้หารือกับนางเมทินี ถึงการใช้กำไล EM ที่ขณะนี้ใช้ในงานคุมประพฤติได้ดีพอสมควร ขณะนี้มีอยู่ 30,000 เครื่อง โดยช่วงนี้เป็นช่วงระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ โดยในเรือนจำเมื่อมีผู้ต้องขังรายใหม่เข้าไปต้องมีการดำเนินการแยกเข้าห้องกักเชื้อ 14 วัน ดังนั้นตนจึงแนะนำว่า หากมีผู้ต้องหาที่ยังไม่เด็ดขาดมาฝากขังนั้น อาจจะให้ประกันตัวและติดกำไล EM เพื่อติดตามได้ เพราะเรามีเครื่องมือสนับสนุนได้ ซึ่งทางท่านประธานศาลก็ขอรับไปพิจารณาในเรื่องนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว
