สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน สภาคองเกรสของบราซิลได้เปิดการไต่สวนเอาผิดรัฐบาลที่บริหารจัดการรับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ผิดพลาด ซึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อมากกว่า 14 ล้านรายและเสียชีวิตไปแล้วกว่า 3.91 แสนราย หลังจากการเริ่มต้นแพร่ระบาดเมื่อปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้การไต่สวนดังกล่าวอาจจะนำไปสู่การฟ้องร้อง “ฌาอีร์ โบลโซนาโร” ประธานาธิบดี บราซิล ซึ่งที่ผ่านมามักพูดถึงการต่อต้านการสวมหน้ากากอนามัยและการฉีดวัคซีน โดยเขาระบุว่า “ไม่มีความกังวล” จากการไต่สวนครั้งนี้
ที่ผ่านมา “โบลโซนาโร” ต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการจัดการการแพร่ระบาด และการสนับสนุนเขาลดลง ในโรงพยาบาลบางเมืองมีความแออัด มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากการรอรับการรักษา ระบบสาธารณสุขกำลังล่มสลายในหลายพื้นที่ แต่เขาก็ยังคงคัดค้านมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาด
“โบลโซนาโร” กล่าวว่า ผลกระทบความเสียหายทางเศรษฐกิจจะมีความเลวร้ายมากกว่าผลกระทบของไวรัส และได้พยายามแก้ไข ข้อจำกัดในบางพื้นที่ โดยหน่วยงานท้องถิ่น
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเขากล่าวกับชาวบราซิลว่า หยุดคร่ำครวญได้แล้ว หลังจากตัวเลขผู้เสียชีวิตในประเทศได้ทำสถิติสูงสุดต่อวัน
ขณะที่ในช่วงเวลาปกติเขามักกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเขาไม่มีความกังวลเกี่ยวกับค่านายหน้าและเขาไม่ได้เป็นหนี้อะไรเลย
การสืบสวนดังกล่าว เป็นไปตามคำสั่งคำสั่งของศาลสูงสุดแห่งประเทศบราซิล จะจัดทำโดยคณะกรรมาธิการไต่สวนแห่งรัฐสภา (CPI) ของวุฒิสภา โดยจะสืบสวนการกระทำหลายอย่างของรัฐบาลได้แก่ การจัดหาวัคซีนล่าช้า, ปิดบังความรุนแรงของการระบาด, การขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์, ส่งเสริมการใช้ยาที่ไม่ผ่านการรับรองทางวิทยาศาสตร์เช่น ไฮดรอกซีคลอโรควิน
นอกจากนี้ยังจะสืบสวนด้วยว่า “โบลโซนาโร” ยอมให้ไวรัสโแพร่กระจายเพื่อทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่หรือไม่ และเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุชนพื้นเมืองในป่าอเมซอน ซึ่งมีไวรันโคโรนากลายพันธ์ุระบาดอย่างไม่มีการควบคุมหรือไม่ และจะวิเคราะห์ด้วยว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางหรือเจ้าหน้าที่ระดับรัฐก่ออาชญากรรมด้วยการ ละเลยหรือทุจริตคอร์รัปชันหรือไม่ ซึ่งผลที่ออกมาอาจสามารถทำให้ทางการฟ้องร้องผู้ถูกกล่าวหาได้
ด้าน “โบลโซนาโร” กล่าววว่า เขาไม่กังวลเกี่ยวกับการสืบสวนดังกล่าว และเขาไม่ได้ทำอะไรผิด หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักมาตลอดในเรื่องแผนการรับมือการระบาดของไวรัสโควิด-19 จนทำให้คะแนนนิยมตกต่ำลง
