สปสช.แจงสิทธิตรวจยีนมะเร็งเต้านมในผู้ป่วยเสี่ยงสูงปี 66 เฉพาะบัตรทอง

  • ส่วนสิทธิอื่นยังต้องรอก่อน
  • เผยสถานการณ์มะเร็งเต้านมยังน่าห่วง
  • หญิงไทยป่วย 213.32 ต่อแสนประชากร

วันที่ 21 ม.ค.2566 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่าตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มีมติเพิ่มสิทธิประโยชน์บริการตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาการกลายพันธุ์ของยีนโรคมะเร็งเต้านม BRCA1/BRCA2 ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยให้กับคนไทยอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูง และญาติสายตรงที่มีประวัติครอบครัวตรวจพบยีนกลายพันธุ์ ล่าสุดปีงบประมาณ 2566 สปสช. ดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อการตรวจคัดกรอง ค้นหาการกลายพันธุ์ของยีนโรคมะเร็งเต้านม ให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมตามเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูง เฉพาะผู้มีสิทธิสิทธิบัตรทอง เท่านั้น ส่วนสิทธิอื่นๆ เช่น ประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ รอการประกาศอีกครั้ง

ทั้งนี้ผู้มีสิทธิ์รับบริการได้แก่ 1.ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมเมื่ออายุไม่เกิน 45 ปี 2.ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมที่อายุ 46-50 ปี ร่วมกับ มีประวัติเคยเป็นโรคมะเร็งซ้ำหลายครั้ง หรือมีญาติสายตรง (พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือ บุตรของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม) อย่างน้อย 1 คน ที่มีประวัติโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งตับอ่อน หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก 3.ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมเมื่ออายุมากกว่าหรือเท่ากับ 50 ปี ร่วมกับข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้

3.1 มีประวัติญาติสายตรงอย่างน้อย 1 คน ที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมที่ได้รับการวินิจฉัยเมื่ออายุไม่เกิน 50 ปี หรือ มะเร็งเต้านมในผู้ชาย หรือ มะเร็งรังไข่ หรือ มะเร็งตับอ่อน หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก 3.2 มีประวัติผู้ป่วยในครอบครัวอย่างน้อย 3 คนที่เป็นมะเร็งเต้านม 3.3 มีประวัติในครอบครัวสายตรงอย่างน้อย 2 คนที่เป็นมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก และ 4.ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทุกช่วงอายุ ที่เป็นมะเร็งเต้านมแบบ triple negative หรือเป็นมะเร็งเต้านมในผู้ชาย

ทั้งนี้ หากผลการตรวจพบว่ามีการกลายพันธุ์ของยีนโรคมะเร็งเต้านมชนิด BRCA1/BRCA2 แล้ว ญาติสายตรงซึ่ง ได้แก่ พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือ บุตร ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม จะได้รับการติดตามให้มาตรวจคัดกรอง เพื่อค้นหาการกลายพันธุ์ของยีน BRCA1/BRCA2 เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งเต้านมให้กับญาติสายตรงฯ ต่อไป

สำหรับหน่วยบริการแบ่งเป็น หน่วยที่ให้บริการเก็บตัวอย่าง 69 แห่ง ทำหน้าที่ให้บริการประเมินความเสี่ยงทางพันธุกรรม บริการให้คำปรึกษาก่อนและหลังการส่งตรวจทางพันธุกรรม บริการเก็บตัวอย่างและจัดส่งตัวอย่างสิ่งส่งตรวจ มีศักยภาพให้บริการดูแลผู้ป่วยมะเร็งซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ และหน่วยที่ให้บริการตรวจยีน BRCA1/BRCA2 จำนวน 7 แห่ง ทั้งภาครัฐหรือภาคเอกชน ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO15189 ในรายการทดสอบ BRCA1/2 หรือ ได้รับการรับรองมาตรฐานการตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

“สถานการณ์ประเทศไทย มะเร็งเต้านมถือเป็นมะเร็งในผู้หญิงที่มีอุบัติการณ์สูงเป็นอันดับหนึ่ง โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (2020) ระบุพบความชุกของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมของหญิงไทยที่ 213.32 คนต่อ 100,000 คน สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งผู้ที่มียีน BRCA1/BRCA2 มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมสูงถึงร้อยละ 80 ดังนั้นสิทธิประโยชน์บริการนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยง ลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมได้” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว