สปสช.ชวนผู้ใช้สิทธิบัตรทอง จองคิวตรวจล่วงหน้าผ่าน “Health Wallet” ในแอปเป๋าตัง



  • ช่วยเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาล
  • ดูข้อมูลรายการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
  • ยืนยันตัวตนป้องกันถูกสวมสิทธิบริการ

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในการเข้ารับบริการที่หน่วยบริการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ในพื้นที่กรุงเทพฯ วันนี้ สปสช. ได้ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย เพิ่มช่องทางการเข้าถึงบริการ ผ่าน Health Wallet หรือ กระเป๋าตังสุขภาพ บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพิ่มความสะดวกและการเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระบบบัตรทองได้ด้วยตนเอง ผ่านการใช้งานระบบออนไลน์ที่ง่ายบนสมาร์ทโฟนของทุกคน ช่วยตอบสนองความต้องการบริการของประชาชนที่ได้มาจากการสำรวจปัญหาและอุปสรรคการเข้ารับบริการใช้สิทธิบัตรทองของประชาชน

อาทิ ไม่รู้ว่าตนเองมีสิทธิรักษาพยาบาลอะไร มีหน่วยบริการใดบ้างที่ใช้สิทธิบัตรทองรับบริการได้ สิทธิประโยชน์สุขภาพในระบบบัตรทองมีอะไรบ้าง และยังมีกรณีการถูกสวมสิทธิบริการเพื่อเบิกค่าบริการ เป็นต้น โดยปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จะหมดไป ตอบโจทย์ได้ด้วย Health Wallet

Health Wallet ประชาชนจะทำอะไรได้บ้างเพื่อใช้สิทธิบัตรทอง มีบริการดังนี้

1.ตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล

2.ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่ได้รับ โดยปรากฏข้อมูลรายการบริการตามอายุและเพศ และแจ้งเงื่อนไขการใช้สิทธิ

3.ค้นหาหน่วยบริการที่ประชาชนสามารถใช้สิทธิเพื่อรับบริการได้

4.จองตารางนัดหมายล่วงหน้าในการเข้ารับบริการกับหน่วยบริการ และดูตารางนัดหมายบริการทั้งหมด

5.ดูประวัติการใช้การสิทธิย้อนหลัง

สำหรับขั้นตอนการใช้บริการ Health Wallet

1.โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตัง

2.เลือกไอคอน Health Wallet

3.ลงทะเบียนโดยใช้หมายเลขบัตรประชาชน

4.เมื่อระบบตอบรับแล้วจะปรากฎข้อมูลของผู้มีสิทธิ (สิทธิการรักษาพยาบาล สิทธิประโยชน์สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่สามารถเข้ารับ บริการได้ โดยจะปรากฏรายการตามอายุและเพศของผู้มีสิทธิ )

5.เลือกรายการบริการ / เลือกหน่วยบริการ (มีรายชื่อของหน่วยบริการให้เลือกในการเข้ารับบริการได้ตามความสะดวก )

6.ทำการนัดหมายวันและเวลารับบริการกับหน่วยบริการที่เลือกได้

7.ระบบจะทำการยืนยันนัดหมาย

จากนั้นประชาชนสามารถไปรับบริการที่หน่วยบริการในวันและเวลาที่นัดผ่าน Health Wallet ได้ ทั้งนี้ในกรณีที่ประชาชนไม่สามารถมารับบริการได้ ก็สามารถเลื่อนนัดผ่านแอปพลิเคชันนี้ได้เช่นกัน เพียงแต่กรณีนี้ต้องดำเนินการล่วงหน้า 3 วัน ก่อนถึงวันนัดหมายเพื่อให้หน่วยบริการสามารถบริหารจัดการในการให้บริการได้

ทั้งนี้บริการ Health Wallet นี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทองเท่านั้น แต่ประชาชนทุกคนสามารถใช้บริการ Health Wallet ได้ เนื่องจากการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคภายใต้ระบบบัตรทอง ทั้ง 16 รายการ เป็นสิทธิประโยชน์ที่ระบบบัตรทองมอบให้กับคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะมีสิทธิการรักษาพยาบาลใดก็ตาม เพื่อลดอัตราการเจ็บป่วยและให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ธนาคารกรุงไทยยังได้มีส่วนร่วมดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังบัตรทองใน กทม. ที่ได้รับผลกระทบจากกรณี สปสช.จำเป็นต้องยกเลิกสัญญาคลินิกเอกชนที่เบิกจ่ายค่าบริการไม่ถูกต้อง ทั้งผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง เพื่อเพิ่มความสะดวกและได้รับการดูแลต่อเนื่อง จึงได้เพิ่มเติมบริการนัดหมายรับยาโรคเบาหวานและยาความดันโลหิตสูงในบริการ Health Wallet นี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 30 กันยายน 2564 ซึ่งผู้ป่วยสามารถเลือกหน่วยบริการ เลือกวันและเวลาเพื่อรับยาต่อเนื่องที่หน่วยบริการได้

“บริการ Health Wallet นี้ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนและผู้ป่วยบัตรทองอย่างมาก ในการเข้ารับบริการสุขภาพ เป็นเสมือนผู้ช่วยที่ดีคอยดูแลทั้งในเรื่องบริการสุขภาพที่จะได้รับ จองคิวรับบริการ เป็นการยืนยันว่าเมื่อไปถึงหน่วยบริการตามนัดจะได้รับบริการแน่นอน ช่วยลดเวลารอคอยและความแออัดในโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาประวัติการรักษาย้อนหลัง และยืนยันตัวตนรับบริการ ป้องกันการถูกสวมสิทธิ” เลขาธิการ สปสช. กล่าว