“ศักดิ์สยาม”โชว์ปิดดีลยุติข้อพิพาทค่าโง่ทางด่วน

“ศักดิ์สยาม”โชว์ปิดดีลยุติข้อพิพาทค่าโง่ทางด่วน เตรียมเสนอ ครม. พรุ่งนี้(24ธ.ค)ขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนBEMข้อพิพาท อีก15 ปี 8 เดือนสิ้นสุด 31 ต.ค.78 แลกยุติถอนฟ้องคดีความ 17 คดี แลกหนี้ 5.8 หมื่นล้านบาท

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางคณะทำงานเพื่อแก้ไขข้อพิพาทในสัญญาระหว่าง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน)(BEM)จากที่ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนคู่สัญญา ได้ข้อสรุปที่จะยุติข้อพิพาทแล้ว ซึ่งข้อสรุปดังกล่าวได้มีการรายงานต่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เพื่อเห็นชอบก่อนที่จะเสนอ คณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันพรุ่งนี้(24 ธค)โดยข้อยุติสรุปว่าจะเสนอให้มีการขยายอายุสัญญาสัมปทานให้-โครงการทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A ,B,C ,ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D ,และ โครงการทางด่วนอุดรรัถยา ส่วน C+สายบางปะอิน -ปากเกร็ด ไปอีก 15 ปี 8 เดือน ในทุกสัญญาที่มีข้อพิพาท และให้ไปสิ้นสุดสัญญาที่มีการขยายในวันที่ 31 ต.ค.78 พร้อมกันทุกสัญญา ซึ่งเงื่อนไขการขยายอายุสัญญาสัมปทานดังกล่าวทั้ง กทพ. และ BEM จะต้องมีการถอนฟ้องคดีที่มีการฟ้องร้องต่อกันทั้ง 17 คดี มูลค่ากว่า 58,873 ล้านบาท แบ่งเป็นคดีที่ BEM ฟ้องร้อง กทพ. 15 คดี ,กทพ.ฟ้อง BEMจำนวน 2 คดี

ขณะเดียวกันในข้อสรุปเพื่อยุติข้อพิพาทนั้นทาง  BEM ยินยอมที่จะยกเว้นค่าผ่านทางให้ประชาชนในทุกด่านที่มีข้อพิพาท ที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จำนวนกว่า 19 ครั้งต่อปี ตลอดอายุสัญญาที่มีการขยายอายุสัญญา ในปี 78 ซึ่งในส่วนนีี้ทางเอกชนยินยอมที่จะยกเว้นค่าผ่านทาง  อย่างไรก็ตามขั้นตอนหลังจากที่ ครม. มีมติเห็นชอบแล้ว ตามขั้นตอนทางกระทรวงคมนาคมจะแจ้งผลให้ BEM รับทราบ และ กทพ.จะต้องเจรจากับ BEM  ให้ได้ข้อยุติรวมทั้งต้องมีการรายงานผลการเจรจาให้คณะกรรมการกำกับตามมาตรา 44 เห็นชอบด้วย  ขณะเดียวกันต้องส่งร่างสัญญาแก้ไขให้อัยการสูงสุดพิจารณา ก่อนส่งกลับมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอต่อ ครม. เห็นชอบต่อไป ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดในการยุติข้อพิพาทนั้นจะต้องให้แล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.63 ก่อนที่สัญญาสัมปทานที่มีอยู่กับ BEM ในวันที่ 29 ก.พ.63

“การเจรจาเพื่อให้ได้ข้อยุติครั้งนี้ถือเป็นซูเปอร์ดิว เพราะได้ตัวเลขข้อสรุปของการพิพาทที่ดีมาก ทำให้มั่นใจว่า การที่ กทพ.ดำเนินการที่ผ่านมามาถูกทาง และเหมาะสมแล้วเพราะ ครม. ให้มาแก้ไขข้อพิพาท แต่ถ้าในอนาคตต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาจราจร ก็พร้อมที่จะดำเนินการในการเข้ามาแก้ไขปัญหา ส่วนที่มีความกังวลว่าหากลงนามในสัญญาขยายสัญญาสัมปทานไปแล้วจะมีผลบังคับเลยหรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ได้มีข้อตกลงว่า หากทั้ง2ฝ่ายไม่ไปถอนฟ้องที่มีการฟ้องร้องกันการขยายสัญญาสัมปทานก้จะไม่มีผลบังคับแต่อย่างใด”

ด้านนายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) กล่าวว่า การเจรจาเพื่อให้ได้ข้อยุติกับ BEM นั้นได้มีการเจรจามากกว่า 8  ครั้ง และมีการเจรจาลดมูลหนี้จากเดิม 137,517 ล้านบาท เหลือเพียง 58,873 ล้านบาท โดยยึดหลักเจรจาจากข้อพิพาทระหว่างกันเป็นหลักและไม่เกี่ยวกับข้อเสนอที่จะมีการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 หรือ Double Deck ดับเบิ้ล เดก ระยะทาง 17 กม.  ซึ่งกรอบการเจรจาจะยึดหลักที่จะต้องไม่ขยายสัญญาสัมปทานเกิน 30 ปี ดังนั้นข้อสรุปจึงยุติข้อพิพาทให้ขยายอายุสัญญาสัมปทานที่ 15 ปี 8 เดือน