“วิษณุ” ลั่นขอให้อดใจรอฟังคำวินิจฉัยกลางศาลรัฐธรรมนูญร เชื่อชัดเจนแน่ พร้อมปัดข้อเสนอ “พิธา” ชี้เป็นอำนาจ ครม.

วันนี้ (15 มี.ค.64) นายวิษณุ​ เครืองาม​ รองนายกรัฐมนตรี​ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหลายฝ่ายยังคงตีความคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแตกต่างกันไปหลายทางว่า ขอให้รอคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญจะดีที่สุด ทราบว่า จะมีการหารือกันในวันนี้​ (15 มี.ค.)

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มาตรา 256 (8) หมวด 15 ระบุว่า ให้ทำประชามติ ตรงนี้จะทำให้สามารถดำเนินการไปพร้อมกับการลงมติในวาระ 3 ได้เลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ประชามติตามมาตรา 256​ (8)​ นั้น เป็นประชามติว่า การแก้ไขใดๆที่ได้ทำมา​ ซึ่งเป็นการถามประชามติในเรื่องอดีตที่ได้ทำมาว่า ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่​ แต่ในกรณีที่มีการเพิ่มหมวด 15/1 เข้าไปนั้นเป็นเรื่องของอนาคต

“เรื่องนี้รายละเอียดทั้งหมดนั้น ขอให้เชื่อผมเถอะว่า ขอให้อดใจ อย่ามัวมาเถียงกัน​ ทะเลาะกัน ขอให้รอฟังคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อน ซึ่งจะมีความชัดเจน ซึ่งเขาก็นั่งฟังกันอยู่ว่าที่ออกมา 4 บรรทัดแล้ว ทุกคนเถียงกันทั้งบ้านทั้งเมือง เขาก็ต้องตอบออกมาให้ได้ว่า ความชัดเจนนั้นคืออะไร ก็ต้องรอฟังอย่าไปเถียงกันอยู่เลย” นายวิษณุกล่าว

ทั้งนี้เมื่อถามย้ำว่า หากมีคำวินิจฉัยกลางออกมาแล้ว แต่ยังมีการถกเถียงกันอยู่อีกจะทำอย่างไร​ นายวิษณุ​ กล่าวว่าตนขอไม่ตอบ ก็เถียงกันต่อไป

เมื่อถามว่า นายวิษณุ ยืนยันใช่หรือไม่ว่า แนวทางที่เคยเสนอไปจะทำให้เรื่องนี้จบได้นั้น โดยนายวิษณุได้ทำท่าทางพยักหน้าหลายหน พร้อมกับกล่าวสั้นๆว่า​ ครับ

อีกทั้งเมื่อถามว่า นายพิธา​ ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ​และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เสนอให้มีการทำประชามติ ได้ตามมาตรา 166​ ที่บัญญัติไว้ว่า ในกรณีที่มีเหตุอันสมควร คณะรัฐมนตรีจะขอให้มีการออกเสียงประชามติในเรื่องใดอันมิใช่เรื่องที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือ เรื่องที่เกี่ยวกับตัวบุคคลหรือคณะบุคคลใดก็ได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ​ นายวิษณุ​ กล่าวว่า​ ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ปล่อยให้ทางสภาเขาดำเนินการไปก่อน ซึ่งมาตรา 166 นั้น เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี