วิกฤต “เมียนมา” ติดไวรัสโควิด-19 พุ่งเกิน 3,000 ราย กดดันเจ้าหน้าที่ไทยเฝ้าระวังชายแดนกันอย่างหนัก



กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาแห่งประเทศเมียนมา ได้อัพเด็ทสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศล่าสุดเมื่อเวา 8.00 น. ของวันที่ 14 กันยายน 2563 มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอีก 83 ราย เสียชีวิต 4 ราย  ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 3,015 ราย เสียชีวิต 24 ราย ผู้ป่วยรักษาหาย 699 คน โดยหากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังอยู่ในระดับนี้คาดว่าอีก 2-3 วัน ตัวเลขจะขึ้นแซงหน้าประเทศไทยอย่างแน่นอน

กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาเมียนมาเผยว่า ผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น มี 2 ราย เป็นชายวัย 75 ปีและ 51 ปี และอีก 2 รายเป็นหญิงวัย 69 ปีและ 76 ปี ทั้งหมดเพิ่งมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวกเมื่อไม่นานมานี้ โดยเสียชีวิตในวันศุกร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้งยังรายงานว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 83 คน ผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 3,015 คน และผู้ป่วยรักษาหาย 699 คน

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิดรอบสองในเมียนมา วิกฤติหนักในรัฐยะไข่ ทางตอนกลางของประเทศ และลุกลามไปเมืองย่างกุ้ง และกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่  ซึ่งได้มีการล็อกดาวน์ไปเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ วิกฤตการณ์ของเมียนมา ทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการระบาดรอบสอง ทำให้ไทยต้องระมัดระวัง เพิ่มการป้องกันแรงงานต่างด้าวลักลอบข้ามแดน โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ

เป็นความยากลำบากในการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมไปถึงบุคลากรทางสาธารณสุขต้องทำงานอย่างหนัก เนื่องจากแนวชายแดนไทย-เมียนมา มีความยาวมากถึง 2,401 กิโลเมตรเชื่อมต่อกับ จ.กาญจนบุรี ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี แม่ฮ่องสอน ระนอง และราชบุรี รวม 10 จังหวัด โดยเฉพาะ จ.ตาก เป็นจุดที่แรงงานเมียนมา เข้า-ออกมากที่สุด