วันนี้ (7 ส.ค.)​ กรมวิชาการเกษตร เปิดลงทะเบียนแจกฟรีต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจร 2 สายพันธุ์สารสำคัญสูง

  • แจกฟรีเกษตรกรและผู้สนใจทั่วไปจำกัด 5 ต้น/คน   
  • พร้อมคู่มือการปลูกฟ้าทะลายโจรดาวน์โหลดได้เลย

นางสาวมนัญญาไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า  ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเร่งขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจรให้แก่สหกรณ์การเกษตร  เกษตรกรและผู้ที่สนใจทั่วไปได้นำไปปลูกเพื่อป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับกระทรวงสาธารณสุขนำไปผลิตเป็นยาสมุนไพรเป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19  โดยกรมวิชาการเกษตรสนับสนุนต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรซึ่งเป็นผลงานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ของกรมวิชาการเกษตรจำนวน 2 สายพันธุ์ที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์สูง  คือ สายพันธุ์พิจิตร 4-4 ซึ่งมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์มากถึง 12.20  กรัมต่อน้ำหนักแห้ง 100 กรัม  และสายพันธุ์พิษณุโลก 5-4  มีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์มากถึง  8.89 กรัมต่อน้ำหนักแห้ง 100 กรัม  ให้กับสหกรณ์ที่สนใจร่วมโครงการส่งเสริมปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจรรวมทั้งเกษตรกร  ซึ่งมั่นใจว่าสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจะเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้เตรียมต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรไว้ 2 สายพันธุ์ซึ่งให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงกว่าพันธุ์การค้าทั้ง 2 สายพันธุ์  คือพันธุ์พิจิตร 4-4 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 3,880 กิโลกรัมต่อไร่ และพิษณุโลก 5-4 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 4,187 กิโลกรัมต่อไร่  จำนวน 800,000 ต้น  โดยจะมอบให้จังหวัดอุทัยธานีนำไปปลูกนำร่องเป็นจังหวัดแรก จำนวน 24,000 ต้น    และเปิดให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจลงทะเบียนจองต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรได้ฟรีโดยจำกัดคนละ 5 ต้น ผ่านเว็บไซต์กรมวิชาการเกษตร www.doa.go.th   ตั้งแต่วันที่ 7 – 31 สิงหาคมนี้   และจะเริ่มแจกต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายให้ผู้ที่สั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2564 เป็นต้นไป 

“นอกจากกรมวิชาการเกษตรจะแจกต้นกล้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ที่สนใจแล้วยังได้จัดทำคู่มือการปลูกฟ้าทะลายโจรให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปลอดภัยเพื่อเป็นแนวทางให้เกษตรกรและผู้สนใจได้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมในพื้นที่ของตนเองโดยในคู่มือจะประกอบไปด้วยสารสำคัญในฟ้าทะลายโจรการปลูกและการดูแลรักษาการจัดการศัตรูพืชการเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวโดยสามารถดาวน์โหลดคู่มือดังกล่าวได้ผ่านทางเว็บไซต์www.doa.go.thด้วยเช่นกัน”