วัคซีน “ไฟเซอร์-แอสตราฯ” ป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลตา

  • สาธารณสุขอังกฤษย้ำลดอาการป่วยหนักสายพันธุ์อินเดีย
  • หลังฉีดแล้วครบ 2 โดสจี้รัฐบาลเร่งฉีดให้ประชาชนโดยเร็ว
  • เดินหน้าศึกษาประสิทธิภาพป้องกันการเสียชีวิต

 
สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ (PHE) ระบุฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ และแอสตราเซนเนกา ครบ 2 โดสแล้ว ลดโอกาสป่วยหนักจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่พบครั้งแรกในอินเดียได้ ตอกย้ำ  ควรเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ครบทั้ง 2 โดสโดยเร็วที่สุด 
PHE เปิดเผยถึงผลการวิเคราะห์ ว่า วัคซีนของไฟเซอร์-บิออนเทค มีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยหนักได้ถึง 96% หลังจากได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 โดสแล้ว ขณะที่วัคซีนของแอสตราเซนเนกา และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มีประสิทธิภาพ 92% และยังป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์อัลฟา ซึ่งพบครั้งแรกในอังกฤษได้ดีเช่นกัน 

แมรี แรมซีย์ หัวหน้าฝ่ายภูมิคุ้มกันโรคของ PHE กล่าวว่า วัคซีนถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่สุดในการต่อสู้กับโควิด-19 จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนจะต้องได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 โดสโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันสูงสุดต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดิม และสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์  

นอกจากนี้ ผลการศึกษาในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ยังระบุว่า วัคซีนของทั้ง 2 บริษัทมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อของไวรัสสายพันธุ์เดลตาอยู่ที่ 33% หลังได้รับวัคซีนโดสแรกไปแล้ว 3 สัปดาห์ แต่ประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์จะอยู่ที่ 88% หากได้รับวัคซีนโดสที่ 2 แล้ว 2 สัปดาห์ ส่วนประสิทธิภาพของวัคซีนแอสตราเซนเนกาอยู่ที่ 60% 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการศึกษาเพื่อวิเคราะห์ถึงระดับการป้องกันการเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา แต่คาดว่า จะอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกับสายพันธุ์อื่นๆ โดยการวิเคราะห์ประเมินจากผู้ป่วยกว่า 14,000 รายที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้า และมี 166 รายที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลระหว่างวันที่ 12 เม.ย.-4 มิ.ย.ที่ผ่านมา