“ลอรีอัล”ยอดขายร่วง 11.7% พร้อมปรับตัวรับวิกฤต

  • ธุรกิจในจีนเติบโตต่อเนื่องด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น17.5%
  • ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซเติบโตอย่างแข็งแกร่ง64.6%
  • เร่งปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล

นายฌอง-ปอล แอกง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลอรีอัล กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 ภายใต้วิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ลอรีอัล กรุ๊ป ได้แสดงศักยภาพในการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้ คือการดูแลสุขภาพและสวัสดิภาพของพนักงานทั่วโลก ช่วยเหลือคู่ค้าและซัพพลายเออร์ด้วยการชะลอหนี้และอำนวยความสะดวกด้านการเงิน ควบคู่ไปกับสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ โดยหนึ่งในนั้นคือการช่วยบริจาคเจลแอลกอฮอล์และครีมบำรุงทามือกว่า 15 ล้านขวด

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก 2563 เผยตัวเลขโดยยอดขายลอรีอัล กรุ๊ปลดลง -11.7% ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่น่าพอใจที่มาจากทั้งการปรับตัวรับวิกฤตอย่างยืดหยุ่นของบริษัทฯ รวมถึงการเป็นผู้นำด้านดิจิทัลและธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ที่เติบโตสูงมากถึง 64.6%ผลประกอบการของลอรีอัลในประเทศจีนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญด้วยการเติบโตกว่า30%  ในไตรมาสที่สอง พลังของแบรนด์สินค้าและผลิตภัณฑ์ ที่เป็นตัวช่วยสำคัญให้ลูกค้าก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ ทั้งหมดนี้ มาจากความร่วมมือร่วมใจและการทำงานของพนักงานลอรีอัลทั่วโลก ทำให้สามารถสร้างผลประกอบการอันน่าพอใจให้บริษัทฯ ด้วยกำไรถึง 18% ใกล้เคียงกับปี 2019 จำนวนกำไรต่อหุ้นลดลงเพียงเล็กน้อย คงสภาพบัญชีกำไรขาดทุนไว้ได้อย่างมีเสถียรภาพ ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นสูงและต้นทุนที่ต่ำ ไปจนถึงคงไว้ซึ่งงบประมาณการลงทุนด้านการวิจัยและการดำเนินธุรกิจในมูลค่าที่สัมพันธ์กัน

“ในครึ่งปีหลัง ลอรีอัล ยังมุ่งดำเนินธุรกิจเต็มกำลังภายใต้ความมุ่งมั่นที่มาพร้อมความโปร่งใส ความมั่นใจ และการปรับตัว บริษัทฯ ต้องโปร่งใสในการดำเนินงานทุกด้านเพราะวิกฤตโรคระบาดยังคงดำเนินต่อไป ขณะเดียวกัน ก็ยังคงมั่นใจในศักยภาพของบริษัท เพราะผู้บริโภคยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงาม การหาซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากจุดจำหน่ายจะง่ายขึ้น และอี-คอมเมิร์ซจะยังคงเป็นหนึ่งช่องทางสำคัญที่จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นต่อจากนี้ ท้ายที่สุดคือการปรับตัว โดยบริษัทฯ มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และขับเคลื่อนธุรกิจในด้านต่างๆ ผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรธุรกิจค้าปลีก เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงามอีกครั้ง และลอรีอัลมุ่งมั่นที่จะทำกำไรให้สูงกว่าตลาดความงามเมื่อสถานการณ์ด้านสุขอนามัยเอื้ออำนวยมากยิ่งขึ้น และสร้างทำผลกำไรอันน่าพึงพอใจต่อไป”

ทั้งนี้ช่องทางอี-คอมเมิร์ซเติบโตสูงเป็นประวัติการณ์ในครึ่งปีแรก นับเป็นข้อพิสูจน์ได้ดีถึงการเร่งปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลของแผนก การสนับสนุนช่างทำผมในช่วงวิกฤตผ่านการพักชำระหนี้ การให้ความรู้ช่างทำผมผ่านช่องทางออนไลน์ และการสนับสนุนหน้ากากอนามัยและเจลทำความสะอาดมือแก่ร้านซาลอน ยังถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยเสริมแกร่งให้แก่ลอรีอัลในฐานะผู้นำทั้งในตลาดและอุตสาหกรรม

ส่วนยอดขายตามโซนในครึ่งปีแรก เอเชียแปซิฟิก ยอดขายลดลงที่ -3.9% จีนยอดขายเพิ่มขึ้น 17.5% โซนละตินอเมริกา มียอดขายลดลง -13.9%โซนยุโรปตะวันออก ยอดขายลดลง -12.1% แอฟริกาและ ตะวันออกกลาง ยอดขายลดลง -17.4%