ศูนย์วิจัยฯ ธ.ก.ส.คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนมกราคม 2563 ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ น้ำตาลทรายดิบ ยางพาราแผ่นดิบ ปาล์มน้ำมัน สุกร และกุ้งขาวแวนนาไม มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น
นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนมกราคม 2563 ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาขายอยู่ที่ 13,668 – 13,976 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.04 – 2.29 เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูการเก็บเกี่ยว ประกอบกับสตอกของผู้ประกอบการไม่เพียงพอต่อการใช้ในประเทศและการส่งออก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาขายอยู่ที่ 7.96 -8.08 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.00 – 2.50 เนื่องจากเป็นช่วงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 2 ในช่วงฤดูแล้ง ทำให้ปริมาณผลผลิตในตลาดมีน้อย
น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาขายอยู่ที่ 13.50 – 13.64 เซนต์/ปอนด์ (8.99 – 9.09 บาท/กก.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.00 – 2.00 เนื่องจากยังคงมีแรงซื้อจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ผลผลิตน้ำตาลตลาดโลกในฤดูการผลิตปี 2562/2563 ที่มีแนวโน้มลดลงจากปัญหาภัยแล้ง อย่างไรก็ตาม ปริมาณสตอกน้ำตาลโลกคงค้างประมาณ 80 ล้านตัน และปี 2562/2563 รัฐบาลอินเดียอุดหนุนผู้ส่งออกน้ำตาล 6 ล้านตัน ยังเป็นปัจจัยกดดันให้ทิศทางราคาน้ำตาลปรับเพิ่มขึ้นไม่มาก
ยางพาราแผ่นดิบ ราคาอยู่ที่ 38.54 – 38.61 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.03 – 0.20 เนื่องจากภาครัฐเตรียมดำเนินโครงการผลิตหมอนยางพาราประชารัฐ 30 ล้านใบ มูลค่า 18,000 ล้านบาท เพื่อช่วย ดูดซับผลผลิตยางพาราออกจากระบบ 150,000 ตัน ประกอบกับปัญหาโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างซึ่งเป็นแหล่งผลิตยางพาราสำคัญ ทำให้อุปทานออกสู่ตลาดลดลง ปาล์มน้ำมัน ราคาขายอยู่ที่ 4.88 – 5.08 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 7.25 – 11.65 เนื่องจากเป็นช่วงต้นปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตน้อย ส่งผลให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ประกอบกับมีมาตรการส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล ซึ่งช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบได้ค่อนข้างมาก
สุกร ราคาขายอยู่ที่ 62.00 – 64.50 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.75 – 4.83 เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสุกรในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับการส่งออกขยายตัว เพื่อรองรับความต้องการเนื้อสุกรจากประเทศเพื่อนบ้านที่ขาดแคลนสุกรจากปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกา (ASF) และกุ้งขาวแวนนาไม ขนาด 70 ตัว/กก. ราคาขายอยู่ที่ 150 – 160 บาท/กก. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนร้อยละ 1.35 – 8.10 เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนและอุณหภูมิลดต่ำลง ทำให้กุ้งเติบโตช้า ส่งผลให้ปริมาณกุ้งเข้าสู่ตลาดน้อยลง
ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับลดลง คือ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาขายอยู่ที่ 7,625 – 7,633 บาท/ตัน เนื่องจากเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น และความต้องการนำเข้าของประเทศฮ่องกงมีแนวโน้มลดลงจากเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และมันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 1.93 – 1.98 บาท/กก. เนื่องจากเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต ส่งผลให้ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่การส่งออกไปต่างประเทศมีแนวโน้มลดลงจากผลกระทบของเงินบาทแข็งค่า ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ราคามันสำปะหลังภายในประเทศลงต่ำลง
