รัฐ-เอกชนไทยเกาะติดรัฐประหารใน “เมียนมา”

  • ทูตพาณิชย์คาดยังไม่กระทบการค้า-ลงทุนของไทย 
  • หลังสภาบริหารแห่งรัฐยังหนุนธุรกิจ-ทุนต่างชาติเช่นเดิม 
  • ธุรกิจไทยรอดูท่าทีรัฐบาลใหม่แต่มั่นใจนานาชาติไม่คว่ำบาตร 

นายธนวุฒิ  นัยโกวิท  ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ  (สคต.)  ณ กรุงย่างกุ้ง  ประเทศเมียนมา  กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า  หลังจากที่เกิดรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 ก.พ.64 จนส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจในเมียนมานั้น ล่าสุด สคต.ได้ประชุมหารือสถานการณ์ดังกล่าวกับ สมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมา ผ่านทางระบบ Zoom VDO Conference โดยคาดว่า การทำธุรกิจ และการลงทุนของไทยในเมียนมา จะยังคงเดินหน้าต่อไปได้ เพราะมีข้อมูลจากสภาหอการค้าและอุตสากรรมของเมียนมาว่า  สภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมา จะยังคงสนับสนุนภาคธุรกิจ และโครงการลงทุนต่างๆ เช่นเดิม  

ส่วนข่าวที่เมียนมาจะลดการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯในการซื้อขายระหว่างประเทศ และหันมาใช้เงินบาทและเงินหยวนแทนนั้น ที่ประชุมเห็นว่า คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ถ้าเป็นความจริง จะเป็นประโยชน์ต่อการค้าชายแดนของไทยมากขึ้น โดยขณะนี้ค่าเงินจั๊ดต่อดอลลาร์สหรัฐฯผันผวนมาก ดังนั้น นักธุรกิจของไทยที่ทำการค้ากับเมียนมา ต้องระมัดระวังค่าเงินที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ รวดเร็ว และต้องป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้ด้วย  

            สำหรับกรณีที่นานาชาติอาจคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเมียนมานั้น ที่ประชุมคาดว่า น่าจะมาจากชาติตะวันตกมากกว่า แต่บริษัทไทยที่ทำการค้ากับเมียนมา จำเป็นต้องตรวจสถานะบริษัทของเมียนมาว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพเมียนมา และไม่ได้อยู่ในบัญชีดำด้วย ซึ่งล่าสุดจากการสอบถามนักธุรกิจไทยที่ทำธุรกิจกับเมียนมา ทราบว่า ไม่มีบริษัทไทยรายใดที่ลงทุนในเมียนมา และมีกองทัพเมียนมาเป็นหุ้นส่วนด้วย แต่ขอให้หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเมียนมา เช่น Innwa Bank และ Myawady Bank 

           ด้านนายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ประชุมสมาชิกสภาฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ในเมียนมา และหาแนวทางรับมือหากเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้าย ซึ่งนักธุรกิจไทยทุกคนก็พร้อมรับมือแล้ว แต่จนถึงขณะนี้  เชื่อว่า สถานการณ์ต่างๆ ไม่น่าจะเลวร้ายจนถึงขั้นที่ธุรกิจไทย หรือคนไทยในเมียนมาต้องอพยพ ที่สำคัญ ทราบมาว่า สภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมา จะยังคงสนับสนุนภาคธุรกิจ และโครงการลงทุนต่างๆ ของนักลงทุนต่างชาติเช่นเดิม 

            “เชื่อว่า สภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมา จะยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการค้า การลงทุนแน่นอน หรือถ้าจะเปลี่ยนแปลง ก็คงไม่มากนัก ส่วนการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากนานาชาติ มั่นใจว่าจะไม่เกิดขึ้น อาจจะแค่ประณามเท่านั้น ซึ่งจะไม่กระทบต่อการค้า การลงทุนของไทยในเมียนมา ขณะที่การค้าชายแดนระหว่างกันก็ยังคงเดินหน้าตามปกติ ไม่มีการปิดด่านการค้าเพิ่มเติมจากเหตุรัฐประการ สินค้าอุปโภคบริโภคของไทยไทยยังเป็นที่ต้องการ ขณะนี้ เรากำลังรอดูท่าทีของรัฐบาลเมียนมาอยู่ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป”