รัฐบาล เผย ผู้แทนการค้าสหรัฐฯให้ไทยปลอดจากตลาดขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

  • สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน 
  • เสริมบรรยากาศการค้าการลงทุนของประเทศมากขึ้น
  • ถือเป็นผลของรัฐบาลที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหา

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า จากนโยบายที่ชัดเจนของรัฐบาลและการดำเนินงานเชิงรุกของไทยในการเข้มงวดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทุกรูปแบบอย่างเข้มแข็ง จนเกิดผลเป็นรูปธรรม ทำให้ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ได้เผยแพร่รายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงทั่วโลกประจำปี 2564 (2021 Review of Notorious Markets for Counterfeiting and Piracy) ไม่ปรากฎย่านการค้าและตลาดออนไลน์ของไทยในรายงานแม้แต่แห่งเดียว นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าไทยจริงจังในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สร้างความเชื่อมั่นเสริมบรรยากาศการค้าการลงทุนของประเทศมากขึ้น

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลจริงจังต่อการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ว่าจะเป็นด้านนโยบาย และด้านกฎหมาย โดยเมื่อ ม.ค. ที่ผ่านมา ครม.ได้เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออก ห้ามนำเข้า และห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. ….  ซึ่งเป็นการปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ข้อเท็จจริง และพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และภายหลังครม. ได้เห็นชอบร่างประกาศฯ กรมศุลกากรเดินหน้าเข้มตรวจสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และจัดระบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกที่สุจริตผ่านพิธีการสุรกากรได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ในปี 2564 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมทรัพย์สินทางปัญญา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันทำลายของกลางสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท  ถือเป็นอีกกลไกสำคัญของการแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสสอดคล้องกับพันธกรณีภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) 

“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแสดงความขอบคุณ พร้อมชื่นชมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่บูรณาการทำงานอย่างเข้มแข็ง ร่วมมือกันอย่างจริงจัง จนปรากฎเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ไทยปลอดจากประเทศไทยที่มีสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จ อันจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ ประเทศคู่ค้า และนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นผลของรัฐบาลที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหามาโดยตลอดจนประสบความสำเร็จ”