รัฐบาล ตั้งเป้าปี 68 ไทยต้องปลอดโรคพิษสุนัขบ้า



  • ชี้เลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ
  • ไม่ปล่อยทิ้งสัตว์ในพื้นที่สาธารณะ
  • พัฒนาอาสาปศุสัตว์เดิมที่มีอยู่แล้วให้มีความรู้

วันที่ 2 ธ.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย “ประเทศไทยปลอดโรคพิษสุนัขบ้าภายในปี 2568” ตามโครงการสัตว์ปลอดโรคคนปลอดภัยจากพิษสุนัขบ้า ซึ่งทางกรมปศุสัตว์ มีแนวทางแก้ปัญหาโรคนี้โดยมุ่งเน้นการควบคุมประชากรสุนัขและแมว และสัตว์ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนสุนัขและแมวเป็นประจำทุกปี

อีกทั้งยังส่งเสริมความตระหนักรู้เรื่องโรคพิษสุนัขบ้าให้ประชาชนและเจ้าของสัตว์เลี้ยงรวมถึงการเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบและไม่ปล่อยทิ้งสัตว์ในพื้นที่สาธารณะ ทั้งนี้ สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าปี 2565 ข้อมูล ณ วันที่ 25 พ.ย. มีรายงานพบจากการสุ่มตรวจจำนวนสัตว์ที่มีเชื้อรวม 210 ตัว คิดเป็นร้อยละ 5 มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ขณะที่ปี 2561 สูงถึงร้อยละ 15 ผู้เสียชีวิต 18 ราย

ทั้งนี้เพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมาย “ประเทศไทยปลอดโรคพิษสุนัขบ้า” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์เร่ง บูรณาการการทำงานกับภาคส่วนต่าง ๆ และประชาชนในการสร้างอาสาปศุสัตว์รุ่นใหม่และพัฒนาอาสาปศุสัตว์เดิมที่มีอยู่แล้วให้มีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะในการปฏิบัติงานด้านการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าครอบคลุมในทุกพื้นที่ ซึ่ง ในช่วงที่ผ่านมาได้จัดโครงการฝึกอบรมเพื่อสร้างและพัฒนาศักยภาพอาสาปศุสัตว์ด้านโรคพิษสุนัขบ้าไปแล้วหลายรุ่น มีผู้ผ่านการอบรมครอบคลุมทุกพื้นที่ มากกว่า 1 แสนคน

และในปีงบประมาณ 2566 นี้ ตั้งเป้าไว้ที่ 8,600 คน อย่างน้อย 2-3 คนต่อตำบล อาสาปศุสัตว์ที่ผ่านการฝึกอบรมแล้วจะได้รับใบประกาศนียบัตรผู้ผ่านการฝึกอบรม บัตรประจำตัวอาสาปศุสัตว์และหนังสือมอบหมายให้ทำการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าจากสัตวแพทย์ ตามพระราชบัญญัติโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. 2535.