“รัฐชทรัพย์ นิชิต้า”​ แจกแจงปม “กรมข้าว”​ ของบกลาง กว่า 4,400 ล้านบาท ส่อเค้าผิดปกติ



  • เหตุขบวนการขั้นตอน ผิดปกติในการบริหารราชการแผ่นดิน
  • เสนองาน ไม่ผ่าน รมช. ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล
  • ไม่ผ่านความเห็นสภาพัฒน์-สำนักงบประมาณ ท้วงติง

 นายรัฐชทรัพย์  นิชิต้า  ประธานที่ปรึกษานายประภัตร  โพธสุธน  รมช. เกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า  จากกรณีข่าวการขัดขวางการเสนอการขอใช้งบกลางของกรมการข้าวที่กำลังเตรียมเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)  รวมถึงโครงการเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยธรรมชาติ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลางปี 2566  จนเป็นเหตุให้มีการโจมตีบนโลกโซเซียลและมีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มชาวนา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น  ขอชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตนในฐานะ ที่เป็น ที่ปรึกษานายประภัตร  และเป็นผู้กลั่นกรองงานทั้งหมดให้กับนายประภัตรมีการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีขบวนการขั้นตอน ที่ค่อนข้างผิดปกติในการบริหารราชการแผ่นดินของกรมการข้าว 

 โดยพบว่ามีการเสนอ เรื่องต่างๆ ของกรมการข้าว โดยไม่ผ่าน รมช. ที่กำกับดูแลโดยตรง  ซึ่งนายประภัตรได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกรมการข้าวกรมปศุสัตว์และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ  และองค์การสะพานปลา โดยพบว่ามีบางหน่วยงานไม่ส่งเรื่องผ่านตามระเบียบของทางราชการที่ต้องผ่านมายัง รมช. ที่กำกับดูและหน่วยงาน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28  กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่าน  ได้มีเจ้าหน้าที่ จากกรมการข้าว เดินทางเข้ามา ชี้แจงรายละเอียดเรื่องการเสนอ ของบกลาง ใน 3 โครงการ  ซึ่งมี ทั้งหมด 3 คือ  โครงการการพัฒนาห้องปฏิบัติการการตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรม (DNA) ข้าวหอมมะลิไทย เพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลาง รายการสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น พ.ศ. 2566  99,930,000 บาท    โครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าว ปีการผลิต 2566/67 404,801,240 บาท   

และโครงการเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยธรรมชาติ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลางปี 2566 เดิมเสนอมาในวงเงิน 3,913,244,463 บาท  โดยในส่วนโครงการเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยนั้น มีการชักถาม ข้อมูล อย่างละเอียด ในกรณี มีหนังสือท้วงติงจากสภาพัฒน์ฯ และสำนักงบปรนะมาณ ที่ให้กรมการข้าว กลับไปทบทวน  แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถชี้แจงได้ จึงให้นำกลับไปแก้ไข  และ ช่วงเย็นดังกล่าว  กลับมีข่าวบนโลกโซเซียลว่า ทางทีมงานของ  นายประภัตร  ขัดขวาง เรื่องที่จะนำเข้า ครม. โดยในข้อเท็จจริงพบว่า  มีรายละเอียด ในโครงการที่เสนอมาไม่ผ่านการพิจารณาสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ และบางโครงการ สภาพัฒน์ฯได้มีการท้วงติงว่า การจัดซื้อปัจจัยการผลิตบางชนิด  ไม่เป็นไปตามความต้องการของเกษตรกร  ซึ่งในวันนั้นตนเองเป็นคนซักถาม อย่างละเอียด และให้นำกลับไปทบทวน และทำให้ถูกต้อง ไม่ได้มีการขัดขวางแต่อย่างใด  โดยในการตรวจในทางลับ พบว่า มีความชอบมาพากล ในโครงการทั้ง 3 โครงการด้วย จึงสั่งให้มีชี้แจงรายละเอียด และดำเนินการอย่างโปร่งใส เท่านั้น 

นายรัฐชทรัพย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในส่วนรายละเอียดของโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าว ปีการผลิต 2566/67วงเงินงบประมาณ 404,801,240 บาท  ที่ถูกกล่าวหาว่า ทางตนขัดขวางความเป็นมา คือ ปี 2562 (15 ตค. 2562) ครม. อนุมัติแผนปฏิบัติการฟื้นฟู เยียวยา เกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วง และอุทกภัยปี 2562 โดยมีโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวปี 2563/64 เป้าหมายเกษตรกร 827,000 ครัวเรือน โดยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว 63,200 ตัน พนื้ ที่ 6.32 ล้านไร่ วงเงินทั้งสิ้น 1,739,429,000 ล้านบาท ระยะเวลาดําเนินการ ตค. 62 – กย. 63  ซึ่งกรมการข้าว ยกเลิกการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวจากสหกรณ์การเกษตร เนื่องจากล่วงเลยระยะเวลาเพาะปลูก จึงยังคงเหลือเกษตรกรที่ไม่ได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว จํานวน 194,492 ครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูก 1,430,000 ไร่  วัน 8 กค. 64 กรมการข้าว ได้เสนอขอรับการจัดสรรงบกลางไปยังผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่ได้รับเมล็ดพันธุ์วงเงินทั้งสิ้น 404,906,240 บาท (โดยสํานักงบประมาณได้มีหนังสือแจ้งให้กรมการข้าวพิจารณาปรับแผนงานงบประมาณที่กรมได้รับไป และยังไม่ได้ก่อหนี้ผูกพันเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรดังกล่าว โดยให้ความสําคัญเป็นลําดับแรกและหากยังมีเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ และจําเป็นต้องได้รับการสนับสนุนให้กรมการข้าวปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณหรือโอนจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร หรือจัดทํา แผนการปฏิบัติงานเพื่อขอตั้งไว้ในรายนการงบประมาณรายจ่ายประจําปีตามความจําเป็นและเหมาะสมต่อไป หนังสือด่วนที่สุดที่ นร 0718/17033 ลว 27 สค. 64) และ 17พค.2565กรมการข้าวขออนุมัติโครงการรักษาระดับปริมาณข้าวและคุณภาพข้าวปี2565/66 จากงบกลางวงเงินทั้งสิ้น404,906,240บาท เพื่อช่วยเหลอืเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเมล็ดพันธุ์ โดยเสนอไปยังรมว.กษ.ให้ความเห็นชอบโดยไม่ผ่าน รมช.กษผู้กํากับดูแล ตามบันทึกข้อความที่ กษ 2607/1052 ลว 17 พค. 2565) (กรมบัญชีกลาง ขอให้กรมการข้าวจัดส่งเอกสารและรายละเอียดประกอบการเสนอ ของบประมาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเหมาะสมของอัตราค่าใช้จ่ายภายใต้โครงการฯ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายหรือระเบียบทางราชการ ตาม หนังสือด่วนที่สุด ที่ กค 0402.4/33982 ลว 14 กย. 65 และหนังสือด่วนที่สุดที่ กค 0402.4/32102 ลว 2 กย. 65)

 และ 2 กพ. 2566 กรมการข้าวขออนุมัติหลักการดําเนินโครงการรักษาระดับปริมาณข้าวและคุณภาพข้าว ปี 2566/67 จากงบกลาง วงเงินทั้งสิ้น 404,906,240 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเมล็ดพันธุ์ตามข้อ 2. โดยเป็นการนําเสนอเข้า ครม. พิจารณาอนุมัติหลักการตาม ความเห็นของสํานักงบประมาณ

ทั้งนี้ สงป. เห็นว่าโครงการฯ ที่เสนอมานั้นไม่อยู่ในขอบข่ายและวัตถุประสงค์วิธีการดําเนินงานของโครงการฯ ที่ ครม. อนุมัติหลักการไว้เมื่อ 15 ตค. 2562 และขอให้ชี้แจงเหตุผลความจําเป็นในการปรับเปลี่ยนการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวมาเป็นปุ๋ยชีวภาพ (หนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 0707/12360ลว.19สค.65) ซึ่งยังไม่ปรากฎเอกสารแนบชี้แจงประเด็นดังกล่าวสภาพัฒน์ฯ ที่ขอใหเ้สนอประเด็นเพื่อพิจารณาและกําหนดความชัดเจนการปรับเปลี่ยนรูปแบบการช่วยเหลือ จากเมล็ดพันธุ์ข้าว เป็นปุ๋ยชีวภาพ รวมถึงกระบวนการชี้แจงทําความเข้าใจให้กับกลุ่มเกษตรกร ไม่ให้เกิดความแตกต่างในการให้ความช่วยเหลือ และขอข้อมูลผลสํารวจความ ต้องการสนับสนุนปัจจัยการผลิต สถานะการทําเกษตรของเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย (หนังสือด่วน ที่สุด ที่ นร 1114/5322 ลว 8 กย. 65)ยังไม่ปรากฎเอกสารแนบชี้แจงประเด็นดังกล่าว นายประภัตร จึงได้มีบัญชาให้เชิญอธิบดีกรมการข้าว มาชี้แจงข้อมูลรายละเอียดในการเสนอโครงการดังกล่าว โดยกรมการข้าว ได้มอบหมาย เจ้าหน้าที่มาชี้แจงเมื่อวันอังคารที่ 28 กพ. 66 และ ไม่สามรถชี้แจงได้ ในประเด็น ที่เกิดขึ้น แถมยังถูกกล่าวหาว่า ขัดขวางการช่วยเหลือเกษตรกรด้วย  ถึงเป็นเรื่องที่ รับไม่ได้ ขณะที่โครงการเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยธรรมชาติ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลางปี 2566 /67เดิมเสนอมาในวงเงิน 3,913,244,463 บาท กษ ๒๖๐๗/๓๑๒ ลว๑๙ม ที่มีการเสนอของบกลาง เข้ามา ตนมีการสอบถามถึง รายละเอียดการของบประมาณ   แต่เจ้าหน้าที่ ไม่สามารถตอบและให้รายละเอียดได้และเป็นเรื่องน่าแปลก มาก

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ มีเรื่องที่ ค่อนข้างแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก โดยก่อนที่จะมีการดำเนินการผลักดันโครงการ ของบประมาณกรมการข้าวที่เกิดขึ้นได้มีบันทึกข้อความ ไปยังส่วนราชการต่างๆ ที่ลงนามโดย นายประยูร  อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรที่ กษ0201/8375 เรื่องแนวทางปฎิบัติในการมอบหมาย การเข้าร่วมประชุมและการเสนอเรื่องนำเรียนรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเกษตรฯ  และสหกรณ์ โดยมีใจความสำคัญ ว่า  เรื่องใดที่ เป็นงานนโยบายการบริหารงานบุคคล  เรื่องที่จะเสนอนากรัฐมนตรี หรือ คณะรัฐมนตรี หรือ งานนโยบายที่มีผลกระทบต่อนโยบายของรัฐบบาลหรือผลประโยขน์ จะต้องดำเนินการโดยด่วนให้เสนอ ต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง โดย ตรง ด้วย  นั้นหมายถึงไม่จำเป็นต้อง ส่งเรื่องถึง รมช.ที่กำกับ ดูแล โดยตรง แต่ให้ผ่าน ไปยัง รมว.  ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างแปลก และน่าจะมีเงื่อนงำ 

 สำหรับโครงการ ที่ทางกรมการข้าว มีการของบกลาง ของกรมการข้าว ที่ผ่านมายัง ทีมงานนาย ประภัตร  เท่าที่ทราบ ทั้งหมด มี 9 โครงการ ได้ แก่ 1.โครงการลดพื้นที่ปลูกข้าว ปี 2565 ไม่ได้มาชี้แจงและไมร่ับเรื่องคืนไปแก้ไข  วงเงิน 729,120,000 บาท  2.  โครงการจัดซื้อชุดอบลดความชื้นเมล็ดพันธุ์และอุปกรณ์ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวลพบุรี เพื่อขอรับการ สนับสนุนงบกลาง รายการสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น พ.ศ. 2566 วงเงิน   85,255,000 บาท   3.โครงการจัดซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์ปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุโขทัย เพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลาง รายการสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น พ.ศ. 2566 วงเงิน 95,225,000 บาท 4.โครงการแอปพลิเคชันข้าวรักษ์โลก Save Planet Rice Project (SPRP) เพื่อขอรับการสนับสนุน งบกลาง รายการสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น พ.ศ. 2566  วงเงิน 99,000,000 บาท