“รมว.พิพัฒน์” ชี้แนะนักท่องเที่ยวทั่วโลกหันฟังคำเตือนไลฟ์การ์ด พร้อมหนุนผลิตอสทก.ใหม่ 18 จังหวัด 1,000 คน
- เผยเพื่อป้องกันสูญเสียชีวิตในทะเล ภูเก็ต พังงา กระบี่
- ปี’66 หนุนกระทรวงท่องเที่ยวฯ เร่งผลิตอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาใหม่ 18 จังหวัด เพิ่ม 1,000 คน
- เร่งสร้างมาตรการความปลอดภัยทางน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวที่อยู่ติดชายฝั่งทะเล
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความห่วงใยกรณีเหตุการณ์นักท่องเที่ยวมาจมน้ำเสียชีวิตในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทยทั้งที่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สร้างความสูญเสีย และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวด้วย จึงความร่วมมือขอให้นักท่องเที่ยวเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดมีคำเตือนออกมาทุกครั้ง ผนวกกับให้สังเกตุสัญลักษณ์ธงแดงแจ้งเตือนอย่างเคร่งครัด เพราะหากฝ่าฝืนจะเกิดอันตรายต่อชีวิตได้
ล่าสุดทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ซึ่งมีความสามารถทางภาษาเข้าไปประสานงานด้านการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเข้าไปทำหน้าที่ประจำอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทุกแห่ง เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เช่น เจ้าหน้าที่ TAC ตำรวจท่องเที่ยว อาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา (อสทก.) พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดูแลความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ทุกแห่ง
ภายในสิ้นปี 2566 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ขยายโครงการอบรมอาสามัครท่องเที่ยวและกีฬา (อสทก.) เพิ่มในจังหวัดเป้าหมายใหม่ทั่วประเทศอีก 18 จังหวัด เพื่อเพิ่มจำนวนอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาเข้าสู่ระบบให้ได้มากขึ้นอีก 1,000 คน จากปัจจุบันผลิตอาสาสมัครฯ ในจังหวัดนำร่องเดิมทำไปแล้ว 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่พระนครศรีอยุธยา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี และภูเก็ต
นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ดำเนินตามนโยบายโครงการ “1 จังหวัด 1 ไลฟ์การ์ด” เร่งสร้างมาตรการความปลอดภัยทางน้ำโดยเฉพาะตามพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวที่อยู่ติดชายฝั่งทะเล ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน จะต้องมีไลฟ์การ์ดในพื้นที่ครอบคลุมทุกจังหวัด ทางกระทรวงฯ ได้เร่งสนับสนุนการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะของไลฟ์การ์ดนำความรู้ไปถ่ายทอดเพื่อเพิ่มจำนวนเครือข่ายต่อไปได้
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
