- ชี้ร่วมกันล่มสภา แค่ยุทธศาสตร์เฉพาะกิจ
- จับตา “ภูมิใจไทย” กำหนดทิศทางการเมืองไทย
รศ.ดร.ยุทธพร อิสระชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงกระแสเรื่องการจับมือกันของ 2 พรรคใหญ่ อย่างเพื่อไทย กับพลังประชารัฐว่า ด้วยประวัติศาสตร์ความขัดแย้งที่มีต่อกันมาอย่างเข้มข้น เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่ 2 พรรคนี้ จะมาตั้งรัฐบาลร่วมกัน ส่วนที่ร่วมมือกันล่มสภาได้นั้น เป็นเรื่องของการทำภารกิจเฉพาะหน้าที่ ที่ไม่เกี่ยวกับการตั้งรัฐบาลในอนาคต การล่มสภา ทำให้ได้สูตรหาร 100 สูตรนี้ เพื่อไทยชอบ
ขณะที่กลุ่ม 3 ป. ก็ชอบ เพราะเขามี ส.ส.พื้นที่ ที่เข้มแข็ง ส่วนเรื่องของกระแส เดี๋ยวไปเอาจากพรรครวมไทยสร้างชาติของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ก็ได้ ทีนี้ ก็บวกได้แล้ว ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อย่ามองขั้ว 3 ป. ว่ามีแต่พลังประชารัฐ แต่ต้องมองให้กว้าง พิจารณาให้ครบ
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐ กับพรรครวมไทยสร้างชาติ จะญาติดีกันได้จริงหรือ เมื่อมีเรื่องที่แกนนำพรรคอย่างนายพีระพันธุ์ และนายไพบูลย์ นิติตะวัน จะฟ้องร้องกันแล้ว รศ.ดร.ยุทธพร ตอบว่า อันนั้น มันเป็นเรื่องของคนของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับคนของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เขาสู้กัน แต่ตัวบิ๊กตู่ ตัวบิ๊กป้อม เขาไม่มีปัญหากันอยู่แล้ว ถึงเวลา 2 พรรคนี้ ก็ต้องช่วยกัน เพราะได้รับมอบหมายมาให้ทำอย่างนั้น แล้วเขาก็ต้องช่วยกันให้ 3 ป.ได้อยู่ต่อแน่นอน
จากนั้น ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า เมื่อพรรคเพื่อไทย กับพลังประชารัฐ จับมือกันไม่ได้ แล้วใครจะได้เป็นรัฐบาล นักวิชาการคนดังตอบว่า “ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะโน้มน้าวพรรคภูมิใจไทยได้สำเร็จ” จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ตั้งข้อสงสัยว่า“เพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย ไม่น่าจะจับมือกันได้” รศ.ดร.ยุทธพร ตอบว่า “ไม่จริง พรรคภูมิใจไทย สามารถจับมือได้ทั้งเพื่อไทย และพลังประชารัฐ ต้องขึ้นกับผลการเลือกตั้ง ไปจนถึงผลของการหารือ อันที่จริง ถ้าเริ่มให้เกียรติกัน และสร้างมิตรกันเสียแต่ตอนนี้ มันก็ย่อมปูทางไปสู่การร่วมงานกันหลังเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะกับเพื่อไทยเอง เอาจริงๆต้องการพรรคภูมิใจไทย มาเป็นแนวร่วมมากกว่า เพราะต้องสู้กับ ส.ว.ด้วย ต้องใช้เสียงถึง 360 เสียง ส.ส.ขึ้นไป ถึงจะมีความชอบธรรมในการปิดสวิตช์ ส.ว.”
