“มูบาดาลา ปิโตรเลียม” ประกาศความสำเร็จในการผลิตน้ำมัน 5 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 มิ.ย.65) บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม บริษัทพลังงานระดับสากลซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ สามารถบรรลุการผลิต 500,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การก่อตั้ง โดยความสำเร็จในครั้งนี้สืบเนื่องจากการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจพลังงานโลก และยังนับเป็นการเพิ่มขึ้นของการผลิตถึง 22% จากปริมาณการผลิตเมื่อปี 2564

โดยก่อนหน้าความสำเร็จในครั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการพัฒนาครั้งสำคัญต่าง ๆ เช่น การถือสิทธิ์ 22% ในแหล่งผลิตปิโตรเลียมทามาร์ในเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกซึ่งเป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียมนอกชายฝั่งของประเทศอิสราเอล

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แหล่งผลิตปิโตรเลียมเปกาการ์ในประเทศมาเลเซียยังประสบความสำเร็จในการผลิตก๊าซธรรมชาติ 500 ล้านลูกบาศก์ฟุต และผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว 16,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากที่บริษัทฯ ได้ประกาศความสำเร็จในการผลิตก๊าซธรรมชาติที่เปกาการ์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาซึ่งจะเป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียมหลักให้แก่ปิโตรนาส แอลเอ็นจี คอมเพล็กซ์ในเมืองบินตูลู รัฐซาราวักของประเทศมาเลเซีย

โดยทั้งสองโครงการส่งเสริมความสำเร็จครั้งสำคัญให้แก่ปริมาณการผลิตทั้งหมดของบริษัทฯ และเสริมนโยบายที่มุ่งเน้นการผลิตก๊าซธรรมชาติของบริษัทฯ ซึ่งตรงกับเป้าหมายในการเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน โดยทั้งหมดนี้ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้ในสัดส่วนเกือบ 70% จากการดำเนินงานทั้งหมด

นอกจากนี้สำหรับบริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อเร็ว ๆ นี้ยังประสบความสำเร็จจากแหล่งผลิตปิโตรเลียมจัสมินและบานเย็นสามารถผลิตน้ำมันดิบสะสมได้ถึง 85 ล้านบาร์เรล อีกทั้งแหล่งผลิตปิโตรเลียมมโนราห์และนงเยาว์สามารถผลิตน้ำมันดิบสะสมได้ถึง 20 ล้านบาร์เรล นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ

นายชีค มอนซัวร์ มูฮัมหมัด อัล ฮาเหม็ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม กล่าวว่า เราทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญ โดยความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนถึงการทำงานหนักและแสดงให้เห็นถึงความสามารถของพนักงานของเรา ทั้งนี้นโยบายในการมุ่งเน้นการผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นในพื้นที่ปฎิบัติงานหลักของเรา ซึ่งเราได้เพิ่มคุณค่าและสร้างความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสียมาอย่างยาวนานและยังนับเป็นสะพานเชื่อมต่อไปสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอีกด้วย ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติของบริษัทประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในครั้งนี้

“การนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เช่นเดียวกันกับการมุ่งมั่นดำเนินงานด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัย ความมั่นคง และสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานระดับสากล เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินงานและการผลิตต่อไป”