มองโควิด-19เป็นภัยคุกคามดัชนีดาวโจนส์ร่วง ต่อวันที่3อีก123จุด

  • สาธารณสุขนิวยอร์กจับตา83 พลเมืองกลับจากจีนใกล้ชิด
  • FDA ชี้ภัยคุกคามที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 อยู่ในระดับที่สูงมาก
  • นักลงทุนขายหุ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ลดความเสี่ยง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวันที่ 26ก.พ.ที่ 26,957.59 จุด ลดลง 123.77 จุด หรือ -0.46% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,116.39 จุด ลดลง 11.82 จุด หรือ -0.38% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 8,980.77 จุด เพิ่มขึ้น 15.16 จุด หรือ +0.17%

หลังจากพยายามยืนแดนบวกในช่วงเปิดตลาด แต่แรงกดดันจากประเด็นการจับตาพลเมือง 83 คนที่เดินทางกลับจากประเทศจีน เนื่องจากกังวลว่าพลเมืองเหล่านี้อาจจะสัมผัสกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ของสำนักงานสาธารณสุขของเขตแนสซอในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐ ทำให้ลดช่วงบวก โดยปิดตลาดดัชนีติดลบต่อเนื่องเป็นวันที่ 5

ขณะเดียวกัน นายปีเตอร์ มาร์คส ผู้อำนวยการศูนย์การประเมินและวิจัยด้านชีวภาพของ FDA ได้ออกมาเตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีต้นตอมาจากประเทศจีนนั้น มีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายไปทั่วโลก

“พวกเราต้องเตรียมรับมือกับแพร่ระบาดขั้นร้ายแรงของไวรัสโควิด-19 และมุมมองของเราก็คือว่า ภัยคุกคามที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้อยู่ในระดับที่สูงมาก ทั้งในระดับโลกและภายในสหรัฐเอง”

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรอฟังแถลงการณ์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยืนยันว่ามีมาตรการในการดูแลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการผลิตยาต้านไวรัส

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.2% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.6% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 5.4% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 3.2% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทรุดตัวลง 30.48% หุ้นอาปาเช คอร์ป ร่วงลง 4.2%

หุ้นโลว์ส ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 4.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 1.603 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.615 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ร่วงลง 3.7% หลังจากมีรายงานว่า นายโรเบิร์ต ไอเกอร์ ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของวอลท์ ดิสนีย์ และนายบ็อบ ชาเพ็ค ประธานธุรกิจดิสนีย์ปาร์คส์ จะเข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าวแทนนายไอเกอร์

หุ้นเวนดีส์ โค ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอาหารฟาสต์ฟู้ด ร่วงลง 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรในปีงบการเงิน 2563 ที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด

อย่างไรก็ดี มีแรงเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิปหลังจากถูกเทขายอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ โดยหุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 2.14% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.25% หุ้นอัลฟาเบท บวก 0.3% หุ้นเฟซบุ๊ก บวก 0.2% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี บวก 0.5%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดและมีผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 7.9% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 764,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2550 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 710,000 ยูนิต