มหาเศรษฐีไทย ได้รับจดหมายจากนายกฯ​ เรียบร้อยแล้ว ขอเวลาเขียนแผนงานพาประเทศพ้นวิกฤต นำโดย “ธนินท์” แห่งซีพี “เจริญ” จากไทยเบฟ มีใครอีกบ้างตามไปดูกัน…

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิง เพาเวอร์ จำกัด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทำหนังสือลงวันที่ 20 เม.ย.2563 ส่งถึงบรรดามหาเศรษฐีไทยทั้งที่ติดอันดับ 1 ใน 20 คนตามการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ และที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยระบุว่า ตามท่ีประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์ร้ายแรงของประเทศ และของโลก ทำร้าย ทำลายชีวิต และความสัมพันธ์ทางสังคม และเศรษฐกิจไปพร้อมๆกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น

นายกฯขอบคุณมหาเศรษฐีทุกคน

นายกฯยังได้ลงท้ายคำขอบคุณไปยังมหาเศรษฐีและเศรษฐีทั้งหลายที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ด้วย และจากการสำรวจ ผู้สื่อข่าวได้รับทราบว่า มีมหาเศรษฐี และเศรษฐีไทยหลายคนได้รับหนังสือฉบับนี้แล้วเม่ือวันที่ 22 เม.ย. อาทิ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์(CP),นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ,นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอจี ดีเวลลอปเมนท์ และ นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิง เพาเวอร์ จำกัด

สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอจี

นอกจากนี้ ยังมี นายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทพีเอ็ม กรุ๊ปส์,นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบมจ.ช.การช่าง ,น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเดอะ มอลล์ กรุ๊ป ,นายฉัตรชัย แก้วบุตตา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น ,นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานบริหาร บมจ.เมือง ไทยแคปิตอล(MTC) เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผู้ได้รับจดหมายดังกล่าว ขอเวลาในการเขียนแผนงานให้นายกฯพิจารณาก่อน จึงจะสามารถให้ความเห็นแก่ผู้สื่อข่าวได้ว่า จะช่วยเหลือรัฐบาลได้อย่างไรบ้างหลังจากที่มีการบริจาคเงิน และเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์กันไปเป็นจำนวนมากแล้ว

เสนอปฏิรูปเศรษฐกิจชาติใหม่

สำหรับผู้ที่ได้มีการประชุมกลุ่มความร่วมมือหน่ึงในคณะที่ปรึกษาภาคเอกชนของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่าง นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือซีพี ในฐานะประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า สภาดิจิทัล ได้เสนอรัฐบาลไป 6 ยุทธศาสตร์ด้วยกันภายใต้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ว่า นอกจากการควบคุม ป้องกัน และรักษาที่รัฐบาลทำอยู่แล้ว ระหว่างนี้ยังควรจัดทำฐานข้อมูลดิจิทัลขนาดใหญ่ของประชากรทุกคน และทุกนิติบุคคลให้เสร็จด้วยระบบ AI เพื่อวิเคราะห์การ กระจายตัวของประชากร และผู้ติดเชื้อไปจนถึงจัดทำระบบแสดงผลตามพื้นที่ Heatmap และ Digital Donation Plat form เป็นศูนย์กลางบริจาคเพื่อการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งสิ่งที่โรงพยาบาลต้องการไว้ในที่เดียว

ส่ิงที่ต้องทำต่อมาคือ ใช้เทคโนโลยีทรานส์ฟอร์มรองรับการทำงาน WORK AT HOME ตลอดไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลรองรับ New Normal ของการทำธุรกิจและการกลับมาเปิดตัวใหม่ สำหรับยุทธศาสตร์ชาติที่ นายศุภชัย นำเสนอหัวข้อสำคัญคือปฏิรูประบบเศรษฐกิจประเทศใหม่หลังวิกฤตนี้ผ่านพ้นไป วางรากฐาน Smart Farming และ e-commerce รวมถึงการวางแผนพื้นที่เพาะปลูก (Agrimap/Zoning) พัฒนาระบบชลประทาน Digital Irrigation ป้องกันน้ำท่วม-น้ำแล้ง พร้อมออกแบบเมืองที่มีความปลอดภัย ปลอดเชื้อ ป้องกันด้านสาธารณสุข หรือ Preventive Healthcare การท่องเที่ยวแนวใหม่ให้เป็น Smart City ไปจนถึงพัฒนาอุตสาหกรรมสู่ดิจิทัล เทคโนโลยีให้หมด

กลุ่มศรีสวัสดิ์พร้อมช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ตัวแทนกลุ่มบริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า นายฉัตรชัย แก้วบุตตา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทและกลุ่มศรีสวัสดิ์ เป็นหนึ่งในบุคคล ที่ ได้รับหนังสือเชิญจากท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประเทศให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสCOVID-19ในครั้งนี้ กลุ่มศรีสวัสดิ์ และนาย ฉัตรชัย แก้วบุตตาพร้อมที่จะช่วยเหลือให้ประเทศสามารถฝ่าวิกฤติในครั้งนี้

โดยเบื้องต้นทางกลุ่มเสนอเข้าไปมีส่วนร่วมช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยใช้สาขาของศรีสวัสดิ์ ทั้งประเทศกว่า 4 พันสาขา เป็นคลินิก แก้หนี้นอกระบบ ซึ่งทางกลุ่มศรีสวัสดิ์มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและระบบการบริหารจัดการ โดยเชื่อว่ามีประชาชนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการหยุดงานหรือเลิกจ้างในช่วงนี้เป็นจำนวนมากที่กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้นอกระบบ ดังนั้นทางกลุ่มจึงเห็นว่าการเข้าไปช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ จะเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับภาครัฐและดูแลประชาชนในช่วงวิกฤติแบบนี้ และเป็นผลดีในระยะยาวต่อเศรษฐกิจต่อไป อย่างไรก็ตาม กลุ่มศรีสวัสดิ์กำลังจัดทำแผนการทำงานเต็มรูปแบบเพื่อให้การร่วมมือกับรัฐบาลแก้ปัญหาในครั้งนี้สำเร็จด้วยดี เพื่อประโยชน์ของประเทศต่อไปในระยะยาว

ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ยินดีเต็มที่

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ได้รับจดหมายเปิดผนึกจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้ว ซึ่งตนมีความยินดี และพร้อมช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ เพราะวิกฤติโควิด-19 ครั้งน้ี ถือเป็นวิกฤติที่รุนแรง และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมากโดยขณะนี้ทางบริษัทได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือประชาชนดังนี้

ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล

1.จัดทำถุงยังชีพอาหารแห้งมูลค่า 300บาท 2 แสนถุง มูลค่า 60ล้านบาท แจกประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ 2.ช่วยเหลือหน่วยงานสาธารณสุข โดยจะบริจาคเงิน 50 ล้านบาท ให้ รพ.สุโขทัย เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการการแพทย์ เพื่อต่อสู้กับโควิด รวมทั้งสร้างห้องฉุกเฉิน ให้ รพ.บ้านด่านลานหอย จัหวัดสุโขทัยมูลค่า 50 ล้านบาท 3.ใช้พื้นที่สาขาของบริษัท ที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศกว่า 4,000สาขา เป็นศูนย์กระจายสินค้าของผู้บริจาคหรือของรัฐ เพื่อให้ถึงประชาชนในชุมชน 4.เสนอให้รัฐบาลที่ได้ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ตั้งกองทุน BSF ขึ้นมารับซื้อหุ้นกู้เอกชนที่กำหนดว่าต้องเป็นหุ้นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต investment grade นั้น ตนขอเสนอให้ดูแลหุ้นกู้ที่ต่ำกว่า investment grade ด้วย เพราะหุ้นกู้ investment grade นั้น มีคนสนใจลงทุนอยู่แล้วและเป็นบริษัทที่ธนาคารให้กู้อยู่แล้ว แต่ถ้าหุ้นกู้ที่ได้เครดิตต่ำกว่าหากไม่สามารถ roll over หนี้หรือไม่สามารถต่ออายุหุ้นกู้ได้ จะกระทบถึงสภาพคล่องธุรกิจ ผู้ลงทุนหรือผู้ถือหุ้นกู้ และอาจกระทบไปถึงสถาบันการเงินเจ้าหนี้ได้

ทั้งนี้ นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ และนางดาวนภา เพ็ชรอำไพ ติดอันดับ 10 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 63 จากนิตยสารฟรอบส์  โดยมีมูลค่าทรัพย์สินที่ 2.65 พันล้านดอลลาร์ หรือ 8.66 หมื่นล้านบาท