

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้เผยแพร่ประกาศเกียรติคุณ ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพระพุทธศาสนา โดยมีเนื้อหาระบุว่า
ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช2565 ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประกาศว่า นายพินิจ จารุสมบัติ อายุ 72 ปี สำเร็จการศึกษา นิติศาสตรบัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง หลักสูตร วตท. จากวิทยาลัยตลาดทุน, หลักสูตร ปปร., หลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับผู้บริหารระดับสูง, หลักสูตร PDI การกำกับดูแลกิจการสำหรับกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชน , หลักสูตร มหานคร 7, หลักสูตร วพน.12, และหลักสูตร TEPCOT 13

เป็นบุคคลผู้มีความรู้ ความสามารถ มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ยึดมั่นในกุศลจริยาสัมมาปฏิบัติ อุทิศตนทำงานเพื่อสังคม ประเทศชาติ พระพุทธศาสนานานัปประการในช่วงดำรงตำแหน่งเป็นนักการเมือง สรุปได้ดังนี้ ปี พ.ศ.2535-2543 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดหนองคาย, พ.ศ.2543-2548 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พ.ศ.2537-2544 ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี, เป็นเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการการทรวงคมนาคม, เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, เป็นรองนายกรัฐมนตรี อุทิศตนบำเพ็ญคุณประโยชน์เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยเป็นเจ้าภาพสร้างอุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ ฌาปนสถาน (เมรุเผาศพ) และเป็นเจ้าภาพทอดกฐินตกค้างทุกวัด (วัดที่ไม่มีเจ้าภาพ) ณ วัดในเขตพื้นที่จังหวัดหนองคาย จังหวัดอุดรธานี จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดใกล้เคียง ตั้งแต่ต้นถึงปัจจุบัน ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุด ชั้นปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.), ได้รับพระราชทานเหรียญสภากาชาดไทยขั้น 1, ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยนครพนม, ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.), รางวัลเสาอโศกผู้นำศีลธรรม, ประกาศเกียรติคุณผู้มีผลงานดีเด่น จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, บุคคลดีเด่นจากสมาคมช่างภาพแห่งประเทศไทย, และโล่เกียรติยศศิษย์เก่าดีเด่นสถาบันพระปกเกล้า เป็นต้น
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย นายพินิจ จารุสมบัติ ได้สนับสนุน “พรบ. มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์” ผ่านวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ยกฐานะให้เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา มีพระราชบัญญัติ ตามประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา “พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ.2540” เป็นผู้สนับสนุนและร่วมพิจารณาจัดสรรงบประมาณประจำปี ถวายมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ให้การสนับสนุนและถวายความอุปถัมภ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในการจัดประชุมวิสาขบูชาวันสำคัญของโลก อีกทั้งได้มอบเงินบำรุงค่าภัตตาหารเพลผู้บริหารคณาจารย์ นิสิต และมอบเงินสนับสนุนพิธีประสาทปริญญา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทุกปี
นับได้ว่า นายพินิจ จารุสมบัติ ได้บำเพ็ญหิตานุหิตประโยชน์แก่สังคม ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นอเนกประการควรแก่การยกย่องประกาศเกียรติคุณ สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้มอบปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพระพุทธศาสนา เพื่อประกาศเกียรติคุณให้ปรากฏไพศาล เป็นทิฏฐานุคติแก่อนุชนสืบไป
ให้ไว้ ณ วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พุทธศักราช 2565
(พระพรหมวชิราธิบดี)
นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

