ภาคเอกชนจับมือช่วยแรงงานกลับจากอิสราเอล

.ลงนามเอ็มโอร่วมมือธ.ก.ส.-แรงงาน-เกษตรฯ
.ประสานเชื่อมโยงแรงงานให้บริษัทเกษตรที่ต้องการ
.พร้อมปั้นสู่ครูพี่เลี้ยงหวังยกระดับภาคเกษตรไทย

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ภาคเอกชน โดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.สง) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงแรงงาน ได้ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยการส่งเสริมความรู้ด้านเทคโนโลยีจากแรงงานอิสราเอลสู่การพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ เพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยภาคการเกษตรที่มีความรู้ ความสามารถ และได้รับผลกระทบจากการสู้รบในอิสราเอล และกลับสู่ประเทศไทย ให้สามารถกลับเข้าสู่ตลาดการจ้างงานของไทย และเป็นการช่วยถ่ายทอดทักษะและองค์ความรู้เพื่อยกระดับภาคการเกษตรไทยในระยะถัดไป


ทั้งนี้ ภายใต้เอ็มโอยูดังกล่าว ทุกหน่วยงานได้จัดเตรียมความพร้อมในการดูแลคนไทยกลุ่มแรงงานเกษตร ที่อพยพกลับจากอิสราเอล ผ่านการดำเนินงานภายใต้ชื่อ “โครงการส่งเสริมฝีมือแรงงานเกษตรไทยในต่างแดนกลับคืนถิ่น” ซึ่งจะมีการพิจารณาแรงงานเข้าร่วมโครงการฯ จากทักษะ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความต้องการ แบ่งเป็น 3 แนวทางตามความสมัครใจ ได้แก่ 1.ปั้นสู่ครูพี่เลี้ยง 2.ป้อนสู่กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร และ 3.ปูทางอาชีพสู่บ้านเกิด


นายสนั่น กล่าวว่า หอการค้าไทย เล็งเห็นถึงโอกาสในการนำความรู้และประสบการณ์ของแรงงานเกษตรกลุ่มนี้มาปรับใช้ เพราะเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง ได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์ องค์ความรู้ และการใช้เทคโนโลยีการเกษตร จากนายจ้างอิสราเอล ที่ถือเป็นเมืองแห่งเกษตรกรรมที่ทันสมัยแห่งหนึ่งของโลก เพื่อยกระดับและขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมของไทย สร้างมูลค่าเพิ่ม และส่งเสริมให้เกิดการต่อยอดในการประกอบอาชีพเกษตร


“หอการค้าไทย จะเชื่อมโยงแรงงานที่มีทักษะตรงกับความต้องการเข้าสู่การจ้างงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ที่เป็นสมาชิก เช่น บริษัท มิตรผล บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร บริษัท สยามคูโบต้า ฯลฯ รวมถึงบริษัทสมาชิกของหอการค้าทั่วประเทศ 76 จังหวัด เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในแรงจูงใจที่ทำให้แรงงานไทยส่วนหนึ่งพร้อมเดินทางกลับประเทศ และมีอาชีพ รายได้สูงตามศักยภาพ รวมทั้งเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนภาคเกษตรของไทยให้ก้าวหน้าต่อไป”