ฟื้นท่องเที่ยว ครม.คลอด มาตรการทางภาษี สนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง

  • หักได้ 2 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง 
  • และหัก 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง 
  • เป็นไปตามประกาศและเงื่อนไขที่กำหดไว้ 

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องเพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งสนับสนุนการใช้จ่ายและส่งเสริมการจ้างงาน โดยประกอบด้วย 2 มาตรการ ดังนี้ 

1. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการสามารถหักรายจ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง หรือค่าบริการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนา ที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่15 ก.ค.-31ธ.ค. 65 ถึโดยมีเงื่อนไข ดังนี้ 1.  2 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

2. 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในท้องที่อื่นนอกจากท้องที่ตามกระทรวงท่องเที่ยวฯกำหนด  และ3. กรณีที่การจัดอบรมสัมมนาครั้งหนึ่ง ๆ เกิดขึ้นในท้องที่ประกาศกำหนดไว้ ต่อเนื่องกัน ให้หักรายจ่ายที่สามารถแยกได้ว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใด แล้วแต่กรณี และให้หักรายจ่ายที่ไม่สามารถแยกได้ว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดได้ 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด 

นายพรชัย กล่าวต่อว่า  มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดนิทรรศการ งานแสดงสินค้าภายในประเทศ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการสามารถหักรายจ่ายค่าเช่าพื้นที่หรือค่าบริการในการเข้าร่วมงานออกร้าน งานนิทรรศการ หรืองานแสดงสินค้าภายในประเทศ ที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.- 31 ธ.ค. 2565 ได้ 2 เท่าของรายจ่ายที่จ่ายจริง โดยมีเงื่อนไข ดังนี้ 2.1) งานออกร้าน งานนิทรรศการ หรืองานแสดงสินค้าภายในประเทศต้องเริ่มจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ก.ค.- 31 ธ.ค. 2565 (เริ่มจัดภายในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ช่วงเวลาจัดงานสามารถเสร็จสิ้นภายหลังวันที่ 31 ธ.ค.2565 ได้ 2.2) ต้องมีหนังสือรับรองจากผู้จัดงานว่าได้เข้าร่วมจัดงานจริง 2.3) ต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่หรือค่าบริการตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.- 31 ธ.ค. 2565 ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด 

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวว่า มาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง จะเป็นการช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 หรือได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ให้สามารถกลับมาฟื้นตัวได้