“ฟอร์จูน” เปิดชื่อ 500 บริษัทใหญ่สุดของโลกปี 64

  • “วอลมาร์ท” คว้าแชมป์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8
  • จีนรวมฮ่องกง-ไต้หวันติดชาร์ตมากสุด 145 ราย
  • ตามด้วยสหรัฐฯ 135 ราย-ญี่ปุ่น 55 ราย

“FORTUNE” ประกาศชื่อ 500 บริษัทใหญ่สุดของโลกปี 64 จีนแชมป์ 143 บริษัท ตามด้วยสหรัฐฯ 122 บริษัท และบริษัทญี่ปุ่น 53 แห่ง โดย Walmart ยังคงรักษาอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 นิตยสารฟอร์จูน (FORTUNE) ประกาศรายชื่อ FORTUNE Global 500 สำหรับปีงบการเงิน 63 ซึ่งเป็นการจัดอันดับ 500 บริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของโลก จากการประเมินรายได้ของบริษัทใน 220 เมือง 31 ประเทศทั่วโลก โดยพบว่า บริษัทที่มีรายได้มากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ Walmart ของสหรัฐฯ คว้าอันดับ 1 เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน และเป็นครั้งที่ 16 นับตั้งแต่ปี 38

ส่วนอันดับ 2 คือ State Grid (จีน) ตามด้วย Amazon.com (สหรัฐฯ), China National Petroleum (จีน), Sinopec (จีน), Apple (สหรัฐฯ), CVS Health (สหรัฐฯ), UnitedHealth Group (สหรัฐฯ), Toyota Motor (ญี่ปุ่น) และ Volkswagen (เยอรมนี) 

ขณะที่ประเทศที่มีบริษัทติดอันดับมากที่สุดคือ จีน รวมฮ่องกง ติดอันดับถึง 135 บริษัท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11 บริษัท แต่เมื่อรวมกับไต้หวันแล้ว อยู่ที่ 143 บริษัท ส่วนสหรัฐฯ อยู่ที่ 122 บริษัท เพิ่มขึ้น 1 บริษัท และญี่ปุ่น อยู่ที่ 55 บริษัท  นอกจากนี้ บริษัท FORTUNE Global 500 ปีนี้ มีซีอีโอหญิงรวม 23 คน เพิ่มขึ้น 9 คน 

ทั้งนี้ บริษัทในทำเนียบ FORTUNE Global 500 ทำรายได้รวมกันมากกว่า 1 ใน 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของโลก (จีดีพีโลก) โดยทำรายได้ 31.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 5% จากปีก่อน มีกำไร 1.6 ล้านล้านเหรียญฯ ลดลง 20% และจ้างงาน 69.7 ล้านคนทั่วโลก 

สำหรับ Apple อยู่ในอันดับ 6 ทำกำไรได้ 57,000 ล้านเหรียญฯ ทำกำไรสูงสุดในบรรดาบริษัท FORTUNE Global 500 ล้มแชมป์เก่า 2 สมัยอย่าง Saudi Aramco อันดับที่ 14  

ด้านสก็อตต์ เดคาร์โล บรรณาธิการนิตยสาร FORTUNE กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นผลจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลในระยะยาวต่อธุรกิจทั่วโลก แต่หากนำวิกฤตินี้มาเป็นตัวเร่งการทำธุรกิจของ Global 500 จะทำให้โลกเห็นถึงวิธีการปรับตัว วิวัฒนาการ และการสร้างตัวตนขึ้นใหม่ของ Global 500 ซึ่งเป็นแนวทางการทำธุรกิจใหม่สำหรับสภาพแวดล้อมใหม่