

- สำหรับใช้ในพื้นที่เปิด (Outdoor Area)
- เป็นเครื่องต้นแบบให้กับประชาชนนำไปจัดสร้างเองได้ง่าย
- ประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 ก.พ.64) พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีส่งมอบเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็กPM 2.5 ต้นแบบ รุ่นที่ 2 จากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ซึ่งเมื่อเดือน ก.พ. 2563 ที่ผ่านมาได้ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ โครงการทดสอบและพัฒนาต่อยอดเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ร่วมกัน

ทั้งนี้พลเรือเอก พงษ์เทพ ได้กล่าวถึงความสำคัญของปัญหามลภาวะจากอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อสุขภาพของประชาชนในหลายพื้นที่ของประเทศไทย มูลนิธิน้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการบรรเทาทุกข์ที่เกิดขึ้นให้แก่ประชาชน ได้จัดสร้างเครื่องบำบัด อากาศฯ รุ่นที่ 1 เป็นเครื่องต้นแบบที่ทางมูลนิธิออกแบบไว้ จำนวน 13 เครื่อง โดย GC ได้สนับสนุนงบประมาณจัดสร้างจำนวน 8 เครื่อง และทดสอบนำร่องใช้งานใน 2 พื้นที่ได้แก่ บริเวณโดยรอบวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และบริเวณโดยรอบวังสระปทุม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานครโดยใช้หลักการระบบบำบัดแบบเวนทูรีสครับเบอร์ (Venturi Scrubber) ซึ่งเป็นระบบบำบัดอากาศแบบเปียกใช้น้ำเป็นตัวกลางใน การดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ติดมากับมวลอากาศ
ทั้งนี้ การพัฒนาในระยะที่ 2 GC สนับสนุนบุคลากรนักวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรมการออกแบบ เพื่อพัฒนาต่อยอดเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 รุ่นที่ 2 โดยใช้หลักการบำบัดด้วยตัวกรอง (Filter)

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า“GC ในฐานะที่เป็นองค์กรซึ่งให้ความสำคัญในด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้พัฒนาต่อยอดเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นนขนาดเล็ก PM 2.5 รุ่นที่ 2 เพื่อแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Know-How) นี้ ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติในวงกว้าง โดยได้ส่งมอบเครื่องบำบัดอากาศฯ รุ่นที่ 2 ให้แก่มูลนิธิ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นต้นแบบ ในการจัดสร้างเองรวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย โดยใช้หลักการบำบัดด้วยตัวกรอง (Filter) ซึ่งออกแบบและทดสอบประสิทธิภาพแล้วสำเร็จด้วยดี ดังจะเห็นได้จากค่าฝุ่นที่ลดลงอย่างชัดเจน
ทั้งนี้เครื่องบำบัดอากาศฯ นี้ ถูกผลิตขึ้นภายในประเทศไทย มีราคาไม่แพง สามารถจัดสร้างได้ง่ายและรูปแบบไม่ซับซ้อน การสนับสนุนดังกล่าว สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาพึ่งพาตนเอง เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม นับเป็นความภาคภูมิใจที่ GC ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำนวัตกรรมและองค์ความรู้ของคนไทย มาต่อยอดเพื่อช่วยเหลือสังคมไทยในการจัดการกับภาวะวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

นายคงกระพัน กล่าวว่า สำหรับผลการทดสอบเครื่องบำบัดอากาศฯ รุ่นที่ 2 นี้พบว่า เครื่องบำบัดอากาศฯ มีประสิทธิภาพในการบำบัดฝุ่น PM 2.5 ประมาณ 95.7% เมื่อทดสอบบำบัดฝุ่นในห้องระบบปิด โดยสามารถบำบัดฝุ่นPM 2.5 ปริมาณ 500-700 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ให้เหลือเพียง 20-30 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และเมื่อทดสอบบำบัดฝุ่นในระบบเปิด สามารถบำบัดฝุ่น PM 2.5 ปริมาณ 700-2,000 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ให้เหลือเพียง 50-60 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเครื่องบำบัดอากาศฯ รุ่นที่ 2 นี้ มีอัตราการดูดอากาศมากกว่า 10,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง
ทั้งนี้ในส่วนของการบำบัดอากาศ มีการติดตั้งตัวกรอง (Filter) ที่มีประสิทธิภาพการกรองฝุ่นแตกต่างกัน ในแต่ละชั้นจำนวน 3 ชั้นด้วยกัน โดยชั้นที่ 1 ประกอบด้วย Pre-Filter การกรองหยาบ ชั้นที่ 2 เป็น Medium Filter ไส้กรองชนิดถุงและชั้นที่ 3 Fine Filter สำหรับกรองละเอียด ซึ่งสามารถกรองฝุ่น ePM1 (ขนาด 0.3-1 ไมครอน) ได้เฉลี่ย 95% ตามมาตรฐานแผ่นกรองอากาศ EN 779 : 2012 หรือเทียบเท่ามาตรฐาน ISO 16890 : 2016 การออกแบบโดยใช้ตัวกรองทั้ง 3 ชั้นนี้ ช่วยยืดอายุการใช้งานของตัวกรอง (Filter) ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาเครื่องต่ำ