พายุไต้ฝุ่นโคนีออกฤทธิ์ เล่นงาน “ฟิลิปปินส์” หนักหน่วง ประชาชนเสียชีวิตไปแล้ว 20 ราย ซ้ำ “พายุอัสนี” รอจ่ออีกลูก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 พ.ย.2563) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน พายุไต้ฝุ่น “โคนี” ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงที่สุดในปีนี้ ได้เข้าถล่มหลายจังหวัดทางใต้ของกรุงมะนิลา ของประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันอาทิตย์ (1 พ.ย.) ที่ผ่านมา โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางพายุถึง 310 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ทั้งนี้สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า มีประชาชนเสียชีวิตเพิ่มเป็น 20 ราย ในจังหวัดอัลไบและกาตันดัวเนส โดยเจ้าหน้าที่กล่าวกันว่า การบังคับให้ประชาชนมากกว่า 345,000 คน ต้องอพยพสามารถช่วยลดการสูญเสียชีวิตได้

โดยโคนีเป็นพายุลูกที่ 18 ที่ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ในปีนี้ และเป็นหนึ่งในไต้ฝุ่นที่มีกำลังรุนแรงที่สุดนับแต่ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ซึ่งทำให้ผู้คนล้มตายมากกว่า 6,300 ราย ในปี 2556 ก่อนหน้าพายุโคนี ไต้ฝุ่นโมลาเบเพิ่งคร่าชีวิตผู้คนในฟิลิปปินส์ไปถึง22 ราย โดยสามารถการเสียชีวิตส่วนใหญ่เพราะจมน้ำ

นอกจากนี้ยังมีพายุอัสนี ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุด 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง กำลังเพิ่มกำลังแรงขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก และคาดว่าจะขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ในสัปดาห์นี้ โดยประธานาธิบดีดูเตร์เตของฟิบิปปินส์ ได้กล่าวเตือนระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ว่า พายุลูกนี้ไม่ได้ทรงพลังเท่าโคนี แต่ก็อาจสร้างความเสียหายต่อถนนหนทางและสะพานที่อยู่ในเส้นทางที่พายุลูกนี้เคลื่อนผ่าน

ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ ได้ทำนายว่า จะมีไต้ฝุ่นอีก 2-3 ลูก เข้ากระหน่ำฟิลิปปินส์ในเดือน พ.ย.นี้และอีก 2 ลูกในเดือน ธ.ค. 2563

รายริคาร์โด จาลัด ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการหายนภัย กล่าวว่า พายุโคนีทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายมากกว่า 55,000 หลัง และทำให้บ้านพังราบอีก 20,000 หลัง โดยผลพวงจากไต้ฝุ่นลูกนี้ ยังทำให้ไฟฟ้าดับกระทบประชาชนมากกว่า 50,000 ครัวเรือนบนเกาะลูซอน รวมถึงลมแรงและฝนตกหนักยังก่อความเสียหายพืชผลคิดเป็นมูลค่า 1,700 ล้านเปโซ หรือราว 1,090 ล้านบาท สะพานถนนหนทางและอาคารของรัฐเสียหายคิดเป็นมูลค่าเกิน 3,600 ล้านบาท

นอกจากนี้ทางการเวียดนาม ยังได้คาดคะเนว่าพายุโคนีจะถึงฝั่งตอนกลางของเวียดนามในคืนวันพุธ (4 พ.ย.) ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักเพิ่มขึ้นในพื้นที่ที่เพิ่งประสบอุทกภัยและดินถล่มเมื่อเดือนต.ค. ที่มีคนเสียชีวิตราว 160 คน และสูญหายอีกหลาย 10 คน