พาณิชย์เชือด! แผงไข่ไก่ฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควร

  • มีโทษหนักทั้งจำและปรับ-ส่งตำรวจดำเนินคดีแล้ว
  • ส่วนผู้ผลิตน้ำอัดลมยินดีร่วมมือไม่ขึ้นราคาขาย
  • ประชาชนพบใครขายสินค้าราคาไม่เป็นธรรมแจ้ง 1569

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ คณะที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ พร้อมชุดเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายไข่ไก่ ณ ตลาดประชานิเวศน์ 1 กรุงเทพฯ เพื่อตรวจสอบการจำหน่ายไข่ไก่ หลังจากได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่า มีแผงขายไข่ไก่ 1 ร้าน ขายไข่ไก่ในราคาสูงกว่าร้านอื่นในตลาดเดียวกัน และแพงกว่าตลาดอื่นๆ เช่น ไข่ไก่เบอร์ 0 ฟองละ 4.80 บาท เบอร์ 3 ฟองละ4.0 บาท

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบว่า ขายราคาเกินจริงตามการร้องเรียน จึงแจ้งข้อกล่าวหาการกระทำความผิดตามมาตรา29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว สำหรับไข่ไก่ กรมได้ขอความร่วมมือผู้ผลิต ตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มไว้ที่ฟองละ 2.90 บาท ไปจนกว่าสถานการณ์ราคาจะคลี่คลาย

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา กรมได้ประชุมกับผู้ผลิตน้ำอัดลมรายใหญ่ เช่น โค้ก เป๊ปซี่, มิรินด้า, เซเว่น-อัพ, แฟนต้า, สไปร์ส, เอส, อาเจบิ๊กโคล่า และ RC (โคล่า) เพื่อขอความร่วมมือตรึงราคาขายตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หลังจากผู้ผลิตเตรียมปรับขึ้นราคาขาย ซึ่งผู้ผลิต ยืนยันว่า และยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ ดังนั้น เมื่อผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำอัดลมต้นทางไม่ปรับราคาแล้ว หากผู้ค้ารายใดปรับขึ้นราคาจะถือว่าเป็นการฉวยโอกาสขึ้นราคา และจะมีโทษตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ และหากประชาชนพบเห็นการขายสินค้าราคาไม่เป็นธรรม แจ้งได้ที่สายด่วนโทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม กรมได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจจำนวน 10 ชุด ออกตรวจสอบพื้นที่ 50 เขต ทั่วกรุงเทพมหานคร เป็นประจำทุกวัน เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะเนื้อหมู และไข่ไก่ และตรวจสอบผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน ซึ่งวันที่ 14-17 ม.ค.65 ได้ตรวจสอบตลาดสด 79 แห่ง พบว่า ราคาจำหน่ายไข่ไก่อยู่ในระดับที่เหมาะสม และปริมาณยังมีเพียงพอ ส่วนหมูเนื้อแดง  ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด และปริมาณยังมีเพียงพอเช่นกัน

ส่วนในต่างจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ ได้ออกตรวจสอบ และติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดเช่นกัน สำหรับการขายเนื้อหมูกิโลกรัม (กก.) ละ 150 บาทนั้น ปัจจุบันมีจุดขาย 684 จุดทั่วประเทศ และจะขายจนถึงวันที่ 31 ม.ค.นี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบจุดจำหน่ายได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าภายใน www.dit.go.th หรือสอบถามสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ