พล.ต.สุพิชาติ เสนานุรักษ์ ผู้สมัคร คณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสทช.) ด้านกฎหมาย ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อประธานวุฒิสภา กรณีผู้สมัคร ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ผ่านนายพงศ์กิตติ์ อนุณภักดีสกุล ที่ปรึกษาด้านการเมืองและการบริหารจัดการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
โดยพล.ต.สุพิชาติ กล่าวว่า ตนมาร้องขอความเป็นพรรค เพราะว่า ผู้สมัคร กสทช. ที่ได้รับการคัดเลือก14 คน มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ถึง 10 คน แต่ที่มาร้องวันนี้ 1 คน คือผู้สมัครด้านกฎหมาย ที่ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 7 และ มาตรา14 ของ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม2553 ที่ระบุว่าผู้ที่สมัคร ต้องไม่เคย หรือเคยเป็น กรรมการผู้บริหาร นิติบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวกับกิจการวิทยุโทรทัศน์กระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคม และต้องมีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ ทำงานสม่ำเสมอไม่น้อยกว่า10 ปี อย่างน้อยต้องระดับรองอธิบดี แต่ผู้สมัครด้านกฎหมายคนดังกล่าว กลับมีตำแหน่งทางราชการเมื่อเทียบแล้วแค่ซี8 จึงขอให้ประธานวุฒิสภา ดำเนินการตรวจสอบและชะลอ เพื่อให้กรรมการสรรหารอบแรกไปคัดสรรใหม่ ทั้งนี้ตนจะไปยื่นค่อศาลปกครอง เพื่อให้ตรวจสอกรณีดังกล่าวในสัปดาห์หน้า
พล.ต.สุพิชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่คณะกรรมการสรรหาออกมาตอบโต้3 ประเด็น คือกรณีกรรมการไม่มีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์ แต่แท้จริงแล้วกรรมการมีอำนาจแต่ไม่ได้กำหนด ส่วนกรอบเวลาจำกัด 30 วัน ไม่ทันต่อการพิจารณาแต่ตามข้อเท็จจริงเมื่อตรวจสอบพบว่ามีเวลา 75 วัน ตรวจวันละ 2 คนก็ทัน และเหลือเวลา เรียกมาโต้แย้งคุณสมบัติได้ด้วย และยังสามารถยื่นขยายเวลาได้ ส่วนที่รีบประกาศผลเพราะกลัวการวิ่งเต้นนั้น ขอตั้งข้อสงสัยว่า แสดงว่ามีจริงใช่หรือไม่ เพราะโผที่ออกมาตรงกับรายชื่อที่ประกาศ
ด้านนายพงศ์กิตติ์ อนุณภักดีสกุล ที่ปรึกษาด้านการเมืองและการบริหารจัดการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งเป็นผู้แทนรับหนังสือร้องเรียน กล่าวว่า จะส่งเรื่องดังกล่าวให้ประธานวุฒิสภาดำเนินการต่อไป