พรรคเพื่อไทยเคาะตั้ง 15 กรรมการเฟ้นหาผู้สมัคร รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคเพื่อไทยจัดการประชุมใหญ่พรรคโดยมีระเบียบวาระให้ที่ประชุมพิจารณา ประกอบด้วย 1.เรื่อง ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ 2.รับรองรายงานการประชุม 3.พิจารณางบการเงิน ปี 2562 และการแต่งตั้งผู้สอบบัญชี , พิจารณารายงานการดำเนินกิจการพรรค ในรอบปี 2562 , พิจารณาร่างข้อบังคับพรรค พท. พ.ศ.2561 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2563 , การเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร และ 4.เรื่องอื่นๆ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อย แต่ที่น่าสังเกตคือ แกนนำระดับผู้ใหญ่ของพรรคหลายคน อาทิ นายเสนาะ เทียนทอง ประธานพรรค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษของพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ ประธานภาคอีสานของพรรค นายนพดล ปัทมะ และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค ไม่ได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมใหญ่ของพรรคในครั้งนี้ด้วย

ต่อมาเวลา 12.45 น. ที่ประชุมได้แจ้งผลการเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของพรรคพท. จำนวน 15 คน ประกอบด้วย คนที่มาจากสัดส่วนคณะกรรมการบริหาร จำนวน 7 คน ได้แก่ 1.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ประธาน 2. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง 3.นายชูศักดิ์  ศิรินิล 4.นายเกรียง  กัลป์ตินันท์ 5.นายประเสริฐ  จันทรรวงทอง 6.นายวิทยา  บุรณศิริ และ 7.น.อ.อนุดิษฐ์  นาครทรรพ เลขานุการ

ส่วนที่มาจากหัวหน้าสาขาพรรคทั้ง 4 สาขา /สาขาละ 1 คน  รวม 4 คน ได้แก่ 1.นายสมัคร บุญปก หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 1 จ.อุดรธานี 2.นายสุเทพ สายทอง หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 2 จ.เชียงใหม่ 3.นายวิทวัส ดุลพินิจพัฒนา หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 3จ.ภูเก็ต 4.นายพันศักดิ์ จันทร์ใบเล็ก หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่ 4 จ.นนทบุรี  ทั้งนี้ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด 4 คน 1.นายสัมพันธ์ แสงพรมชาลี ตัวแทนพรรคประจำจ.สกลนคร 2.นายประสิทธิ์    จันทาทอง ตัวแทนพรรคประจำจ.หนองคาย 3.น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ ตัวแทนพรรคประจำจ.สุโขทัย  4.นายสมบุญ พูลผล ตัวแทนพรรคประจำจ.สระบุรี

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตคือ คะแนนเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการสรรหาของเลขาธิการพรรคนั้น ได้น้อยที่สุด เพียง 243 คะแนน ซึ่งน้อยกว่าคะแนนของหัวหน้าสาขา และกับแทนพรรคประจำจังหวัด โดยคนที่ได้คะแนนมากที่สุดคือ หัวหน้าพรรค 253 คะแนนเสียง

ต่อมาในช่วงวาระอื่นๆ นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้หารือเรื่องการเลือกตั้งซ่อม จ.สมุทรปราการ ว่าคนที่เราส่งสมัครเป็นอดีตส.ส.ของพรรค 3 สมัย รอบนี้พอมีทางหรือไม่ เพราะเราอยากสะกดคำว่า ชนะบ้าง เนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ฝ่ายรัฐบาลชนะตลอด การส่งผู้สมัครครั้งนี้เราเอาจริงเอาจังแค่ไหน เหลือเวลาอีกประมาณ 20 วันเท่านั้น และคู่ต่อสู้ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาลนั้นน่าจะมีอิทธิฤทธิ์มหาศาล

โดยนายสมพงษ์ กล่าวว่า ในการส่งผู้สมัครทุกครั้ง พรรคเราสู้ทุกครั้งอย่างจริงใจ แต่ที่ผ่านมามีอุปสรรคทุกครั้งในการจัดการเลือกตั้ง เช่น การใช้อำนาจรัฐ ทั้งนี้เรามีการเตรียมการเรื่องการเลือกตั้งไว้ แต่ที่ผ่านมา จ.สมุทรปราการมีความขึ้นชื่อมาตลอดเรื่องการโกงการเลือกตั้ง แต่เราจะสู้เต็มที่ ต่อมาคือต้อง ขอร้อง และขอวิงวอนให้สมาชิกทุกท่านไปรณรงค์  และช่วยกันหาเสียง อย่างจริงจัง โดยจะต้องกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนว่าคนไหน ลงพื้นที่ไหน จุดไหน และต้องช่วยกันป้องกันการโกงด้วย ทั้งนี้ จากประสบการณ์จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาๆ เราได้วางกลไกในการป้องกันไว้แล้วเช่นกัน และหากทุกคนช่วยกันทั้งช่วยกันสอดส่อง และช่วยกันหาเสียง ตนเชื่อว่า เราจะไม่แพ้การเลือกตั้งอย่างแน่นอน

ขณะที่น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาแม้พรรคยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะมีอุปสรรคเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามมีอำนาจรัฐเต็มที่ แต่เชื่อมั่นว่าส.ส.ของพรรคมีความเข้มแข็ง  มีหัวใจที่จะสู้ตายรวมถึงองค์ประกอบทั่วไป  เช่น สถานการณ์บ้านเมือง ความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกให้กับฝ่ายค้าน รวมถึงการสนับสนุนจากพรรคที่จะเป็นกำลังสำคัญในการรณรงค์หาเสียง  ดังนั้นเชื่อว่าหากพรรคทำให้ดีที่สุด  การเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดสมุทรปราการก็มีโอกาสที่จะชนะ ส่วนข้อกังวลของสมาชิกพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ว่าจะมีการทุจริต  มีโกงการเลือกตั้งหรือไม่นั้น  เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์โควิด-19 ต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม  ทำให้ กกต.ต้องเพิ่มหน่วยเลือกตั้งจากเดิมที่มีกว่า 200 หน่วยเลือกตั้ง เพิ่มเป็น  350 หน่วยเลือกตั้ง และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้สั่งการให้จัดสรรบุคคลเพื่อทำหน้าที่สังเกตการณ์ในหน่วยเลือกตั้งเพื่อป้องกันการทุจริตอีกด้วย 

นายอดิศร ยังได้ปรึกษาที่ประชุมอีกว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ทางพรรคเราได้เตรียมการในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.   และอบจ. อย่างไร

นายสมพงษ์ กล่าวว่า เราเตรียมตัวของเราไว้เยอะมากมายก่ายกอง แต่ต้องมีกระบวนการสรรหา และตกลงกันก่อนว่าต้องส่งส่วนไหนบ้าง แต่พรรคเพื่อไทยเราพร้อมที่จะต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตย ที่ปราศจากการโกง โดยจากนี้ จะต้องมีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อหารือกันในเรื่องดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ทุกคนมีความคิดเหมือนกันว่าเราจะสู้ โดยทุกคนต้องผนึกกำลังร่วมกัน

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้การบริหารงานของพรรคหลายครั้งบอกว่า ขัดกันไปกันมา เรามี2 ประธาน คือคุณหญิงสุดารัตน์ และร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งการปรึกษาหารือกันมาตลอด และตนก็ทำงานร่วมกันกับเลขาธิการพรรคเพื่อไทยมาตลอด ยืนยันว่า จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาชน และทำให้พรรคก้าวต่อไป

ขอบคุณที่มา ภาพและข้อมูลจาก แนวหน้าออนไลน์