พรรคภูมิใจไทยนำ7รมต.-51ส.ส.ลงพื้นที่จังหวัดพัทลุง

  • พรรเดินหน้าดัน 98 โครงการสำคัญ มุ่งพัฒนา 14 จังหวัดภาคใต้เป็นเมืองท่องเที่ยว เชื่องบฯ ปี 63 ผ่าน ค้านแก้ รธน.มาตรา 1 ไม่ยอมให้กระทบสถาบันที่เคารพ

วันนี้(12ต.ค.)พรรคภูมิใจไทย ได้จัดประชุมพรรคสัญจร ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดพัทลุง โดยมี 7 รัฐมนตรีในนามของพรรคแถลงสรุปการประชุมพร้อม ส.ส.ทั้ง 51 คน โดยที่ประชุมมีมติมุ่งเป้าพัฒนา 14 จังหวัดภาคใต้ให้เป็นเมืองท่องเที่ยว พร้อมผลักดัน 98 โครงการที่สำคัญลงพื้นที่ งบประมาณรวม 22,435,581,312 ล้านบาท หวังเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวอีก 50,000คนต่อปี

โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อม 7 รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยแถลงข่าวการประชุมพรรคและลงพื้นที่สัญจรครั้งที่ 1 ของ 7 รัฐมนตรีของพรรค ร่วมกับ ส.ส.ทั้งหมดของพรรคที่จังหวัดพัทลุง ว่า ภูมิใจไทยทั้งพรรคมาอยู่ที่พัทลุง ถือเป็นเรื่องของทั้งพรรคและรัฐบาลที่จะใช้โอกาสวันหยุดสุดสัปดาห์ลงพื้นที่มาทำงานในฐานะฝ่ายบริหารในรัฐบาลและผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทยก่อตั้งมาเพียง 10 ปี แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรกของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ ซึ่งได้เดินทางไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ ความรู้สึกของประชาชนที่มองพรรคภูมิใจไทยว่าเป็นพรรคของภาคอีสาน และครอบคลุมในระดับภาคหรือท้องถิ่นเท่านั้น แต่จากการที่พรรคภูมิใจไทยมียุทธศาสตร์มุ่งเน้นประโยชน์ของประชาชน ทั้งปากท้องประชาชนมากกว่าการเล่นเกมส์ทางการเมือง วาระสำคัญที่สุดของพรรค คือ การทำงานรับใช้ประชาชนจากความไว้วางใจของประชาชน

“วันนี้จึงจะเข้ามาตอบแทนบุญคุณของประชาชนทั่วประเทศ โดยมีความตั้งใจที่จะสัญจรไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย พรรคมีรัฐมนตรี 7 คน มี ส.ส. 51 คน และคณะทำงานอีกจำนวนมากที่พร้อมขับเคลื่อนและช่วยเหลือภารกิจของนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และประเทศไทย เพื่อทำประโยชน์ให้ประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่ใช่การมาเที่ยว แต่เป็นการนำสมาชิกพรรคทุกคนมาทำงาน โดยแบ่งงานตามสายงาน รวมทั้งแบ่งงานตามความรับผิดชอบของ ส.ส.แต่ละคนสังกัดอยู่ในกรรมาธิการต่าง ๆ ซึ่งตนและรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ไปติดตามในเรื่องตามกระทรวงที่ตนเองรับผิดชอบ พร้อมรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนในพื้นที่

“ส.ส.ทั้ง 51 คน มารวมพลังกันรับเรื่องของชาวบ้าน เพื่อช่วยกันผลักดันให้เข้ามาในกรอบงบ เน้นผลงาน โดยนำส่งทุกเรื่องที่เคยหาเสียงเลือกตั้งไว้กับประชาชน จึงขอให้ความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยเน้นเรื่องผลงานที่จะออกสู่ประชาชน อะไรที่ได้ให้คำมั่นสัญญาในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยจะนำส่งทุกเรื่อง ดังนั้นนโยบายต่าง ๆ ภายใต้การกำกับดูแลของพรรค จะเดินหน้าเร็วขึ้น แรงขึ้น แต่หากนโยบายใดที่เสนอไปแต่ไม่ได้กำกับดูแลโดยตรง ก็จะนำไปหารือกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม

ดังนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกพรรคต้องเดินหน้าตามนโยบายที่หาเสียง ต้องพึ่งพากันและกัน พรรคภูมิใจไทยผ่านท่ามกลางพายุมาแล้ว แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชม ทั้งนี้ การทำงานก็ต้องผ่านคำปรามาสเช่นกัน จึงขอย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีเรื่องผลประโยชน์ใด ๆ มาอุดปากทั้งสิ้น เพราะทุกคนมีฐานะ อยู่ดีกินดี มีความพร้อมดูแลตนเองได้แล้วจึงมาดูแลคนอื่นและประเทศชาติ ยกเว้นแต่อาหารต่าง ๆ ที่จะมาอุดปากเพื่อให้มีพลังในการทำงานเพื่อรับใช้บ้านเมือง ขณะที่นักการเมืองสังกัดพรรคต้องประสบความสำเร็จ ไม่ใช่มาเป็นตัวถ่วง หรือมีใครมาหากินเพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่มีความสุขที่ได้ทำงานเพื่อประชาชน และการลงพื้นที่พัทลุงครั้งนี้ คือ การเริ่มต้นการตอบแทนประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงครั้งนี้ ไม่ได้หวังจะตีกับใครเพื่อกวาดพื้นที่ภาคใต้ แต่เป็นการทำงานอย่างเต็มที่ตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ พรรคภูมิใจไทยคาดหวังว่าหากผลงานก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้ ประชาชนก็จะให้โอกาสพรรคเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้หวังจะไปตีกับใคร

นายอนุทิน ยังประเมินการทำงานของรัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ว่า ขอให้ดูหน้าของรัฐมนตรี แม้หน้าจะดำ แต่ก็ยิ้มทั้งหน้า แก้มก็ยิ้ม ปากก็ยิ้ม ยิ้มมีความสุขที่ได้ทำงาน วันนี้วันเสาร์เป็นวันหยุดราชการแต่เป็นรัฐมนตรีต้องทำงาน 24 ชั่วโมง อย่างทุกวันจันทร์ตอนเย็น รัฐมนตรีของพรรคก็จะมาประชุมกันก่อน แล้วจึงนำเรื่องที่ประชุมกันไปสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีทุกวันอังคาร หากจะให้ประเมินความดันทุรังของรัฐมนตรีให้ 11 เต็ม 10 คะแนน ส่วนผลการทำงานบางคนก็ได้ 7 คะแนน บางคนก็ได้ 8 แนน แต่สุดท้ายก็ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ประเมินมากกว่า

“ส่วนที่มีการมองว่า การลงพื้นที่ภาคใต้จะกระทบกับฐานเสียงเดิมของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ก็เหมือนการตีกอล์ฟ ที่ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ ของบางอย่าง มันยอมกันไม่ได้ คนตัดสินใจคือพี่น้องประชาชน การโจมตีถือเป็นอาหารเสริมเหมือนฟิชออยล์ เหมือนครูที่กำลังมาสอนเรา หากคิดว่าเป็นศัตรูที่มาฟาดฟัน มัวแต่ทะเลาะกับข้างทาง หรือมัวแต่ทะเลาะกับสุนัข ก็ไม่ได้ ต้องค่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ แล้วหูทวนลมไป ถ้ามาใกล้ ๆ ก็ต้องป้องกันตัวเอง สุนัขเห่า อย่าเห่าตอบ”