เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการลงมติอภิปรายไม่ไว้วาง พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร่วมแถลงข่าวหลังการลงผลคะแนนอภิปรายไม่ไว้วางใจ
โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทำเต็มที่แล้ว โดยคะแนนจากที่ประชุมก็จะเห็นฝ่ายรัฐบาลได้คะแนนไว้วางใจอย่างท่วมท้น แต่เป็นที่น่าสังเกตคะแนนไว้วางใจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้นน้อยไปหน่อย รวมถึงรัฐมนตรีอีกหลายคนด้วย ทั้งนี้มั่นใจการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน เพราะทำบ้านอย่างหนัก หลังจากนี้ก็อยู่ที่พี่น้องประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เผยว่าพรรคฝ่ายค้านจะเดินหน้าทำหน้าที่ต่อ แม้ไม่ชนะคะแนนเสียงในสภา แต่ชนะใจประชาชน โดยหลังจากนี้จะเตรียมตรวจสอบข้อมูลในบางประเด็นที่มีการอภิปรายในสภา และเตรียมฟ้องนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง และป.ป.ช.ด้วย
ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เปรียบการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เป็นยุทธการกรีดแผล โดยหลังจากนี้จะเป็นแผนการโรยเกลือ เดินหน้าตรวจสอบฝ่ายรัฐบาลต่อเนื่อง ทั้งนี้การทำหน้าที่ตลอด 4 วัน เป็นการใช้อำนาจที่ประชาชนมอบให้โดย 1 ปี จะมีโอกาสเพียง 1 ครั้ง ที่จะได้ใช้อำนาจนี้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และแม้วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของศึกซักฟอกรัฐบาล แต่พรุ่งนี้จะเป็นวันแรกที่พรรคฝ่ายค้านจะทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชน ย้ำจะเดินหน้าเต็มที่ และตั้งใจทำงานให้หนักกว่าเดิม
ขณะที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส บอกว่าตนรู้ผลคะแนนอยู่แล้ว และรู้ด้วยว่าการลงคะแนนก็เหมือนเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่ง โดยพี่น้องประชาชนที่ติดตามการฟังอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเข้าใจ และเห็นด้วยต่อหลักฐานต่างๆ ที่ฝ่ายค้านนำมาแสดง อย่างไรก็ตามขอฝากไปยังนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาตัวเอง หลังผลคะแนนไว้วางใจไม่ได้มาเป็นอันดับ 1
