“ฝรั่งเศส-อังกฤษ”ขอผลตรวจเชื้อโควิดเป็นลบกับผู้เดินทางจากจีน

นักท่องเที่ยวชาวจีนออกจากอาคารผู้โดยสารขาเข้าของสนามบินนานาชาติโรม–ฟิอูมิชิโน ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม หลังเสร็จสิ้นการตรวจหาเชื้อโควิด-19 (Photo by Filippo MONTEFORTE / AFP)
  • องค์การอนามัยโลกกดดันให้รัฐบาลปักกิ่ง
  • แชร์ข้อมูลที่แท้จริงของโควิดสายพันธุ์ที่ระบาด

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2565 กล่าวว่า ฝรั่งเศสและอังกฤษกำหนดมาตรการสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีนให้ต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ เช่นเดียวกับความเคลื่อนไหวที่คล้ายกันของอิตาลีและสเปน ที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว

เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ฝรั่งเศสจึงกำหนดให้นักเดินทางที่ขึ้นเครื่องจากจีนต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิดที่เป็นลบซึ่งตรวจมาแล้วไม่เกิน 48 ชั่วโมงพร้อมบอร์ดดิ้งพาส โดยจะมีการสุ่มตรวจผู้โดยสารเมื่อเดินทางมาถึง หากพบผลทดสอบเป็นบวกจะถูกส่งกักกันโรคทันทีเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดถึงสายพันธุ์ของโควิดที่เล็ดรอดเข้ามา

เช่นเดียวกับอังกฤษ, สเปน, เกาหลีใต้ และอิสราเอล ที่เพิ่งกำหนดมาตรการออกมา โดยไม่นานก่อนหน้านี้ อิตาลี, ญี่ปุ่น, อินเดีย, มาเลเซีย, ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดให้แสดงผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบสำหรับผู้เดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่ทุกคน เพื่อหลีกเลี่ยงการนำเข้าไวรัสสายพันธุ์ใหม่

ในกรณีของอังกฤษ ข้อกำหนดนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2566 ขณะที่ประเทศที่กล่าวมาข้างต้น ได้เริ่มมาตรการไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม สวิตเซอร์แลนด์และเยอรมนีกล่าวว่าจะเปิดพรมแดนสำหรับผู้เดินทางจากจีน โดยไม่พิจารณาเอกสารการตรวจโควิดหรือมีมาตรการพิเศษแต่อย่างใด

องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้รัฐบาลจีนมีความจริงใจในการแบ่งปันข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงและที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ทางระบาดวิทยา

หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าจีนไม่แชร์ข้อมูลต่อนานาชาติ โดยกล่าวว่า “ตั้งแต่เกิดการระบาดของโรค จีนได้แบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่ประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงองค์การอนามัยโลกด้วยวิธีการที่เปิดเผยและโปร่งใสมาตลอด”

จีนยุติการกักตัวภาคบังคับสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ และยกเลิกมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมไวรัส และเปิดประเทศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566.