ผู้นำเอเปคจะได้เจอหน้ากันจริงๆ ในวันที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมปี 2565

  • นายกฯย้ำให้เตรียมการให้พร้อม
  • เพื่อสร้างความมั่นใจในประชาคมโลก

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี 2565 ซึ่งเป็นการประชุมแบบพบหน้ากันเต็มรูปแบบ ครั้งแรกหลังจากปี 2561 ที่ปาปัวนิวกีนี เนื่องจากในปี 2562 ชิลีต้องยกเลิกการประชุมไปเนื่องจากเกิดเหตุการณ์จลาจลในประเทศ และปี 2563-2564 มาเลเซียและนิวซีแลนด์จัดการประชุมทางไกลสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยนายกรัฐมนตรีย้ำให้ทุกหน่วยงานวางแผนการทำงานและบูรณาการกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรืออุปสรรคและจะใช้โอกาสนี้สร้างความมั่นใจต่อประชาคมโลกของไทย ในภาวะหลังโควิด-19 ด้วย

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมฯ เห็นชอบกรอบการดำเนินงานเพื่อให้การจัดการประชุมฯ มีความพร้อมและประสบความสำเร็จ โดยเริ่มดำเนินงานตั้งแต่ตอนนี้จนถึงเดือนต.ค. 2565 โดยกำหนดให้จัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคขึ้นในวันที่ 12-13 พ.ย. 2565 โดยนายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้อง มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีทุกท่านเป็นรองประธานกรรมการ พร้อมกรรมการจากกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศเป็นกรรมการและเลขานุการ รวมทั้งคณะอนุกรรมการอีก 4 ด้าน ได้แก่ ด้านสารัตถะ ด้านพิธีการและอำนวยการ ด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ด้านประชาสัมพันธ์
สำหรับด้านสารัตถะ ให้กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในกรอบเอเปค และกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการร่วมกันเพื่อพัฒนาหัวข้อหลัก ประเด็นสำคัญ และผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ครอบคลุมรอบด้าน และเป็นประโยชน์ ซึ่งไทยจะผลักดัน 5 เรื่อง คือ การส่งเสริมการค้าการลงทุนอย่างเสรี การก้าวไปสู่สังคมดิจิทัล สุขภาวะ ความมั่นคงทางการทหารและการเกษตร การเจริญเติบโตอย่างครอบคลุม ยั่งยืน และรับผิดชอบ
ส่วนด้านประชาสัมพันธ์จะสร้างเครือข่ายกับภาคเอกชน เช่น บริษัทสื่อแนวใหม่ และดึงภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยด้วย