“ปิยบุตร”เร่งเร้าปลุกทุกสีร่วมทวงอำนาจคืนประชาชน

  • “ปิยบุตร” ชี้รัฐประหาร 49 จุดเริ่มต้นกำจัดศัตรูทางการเมือง
  • ขังประชาชนในห้องมืดเป็นเผด็จการครึ่งใบ
  • พร้อมปลุกทุกสีร่วมทวงอำนาจคืนประชาชน

พรรคอนาคตใหม่ จัดเวที “จินตาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่ ประเทศไทยแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน” โดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยอภิวัฒน์สยามเมื่อ 24 มิถุนายน 2475 รัฐธรรมนูญฉบับแรกคือฉบับวันที่ 27 มิถุนายน 2475 ซึ่งให้อำนาจอยู่กับราษฎรทั้งหลาย เป็นการปักหมุดแรกที่อำนาจสุงสุดเป็นของประชาชน จนกระทั่งมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2489 และเกิดรัฐประหารปี 2490 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นวงจรอุบาทว์ที่ทหารเข้ามามีบทบาททางการเมือง จากนั้นมีรัฐธรรมนูญปี 2492 ที่ทำประเทศไทยถอยหลัง

“ต่อมาเกิดการรัฐประหารขึ้นอีก 13 ครั้ง จนประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ เกิดการเสียเลือดเนื้อหลายครั้ง เปลี่ยนแปลงรัฐบาลแบบผิดปกติ การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญใช้วิธีการแบบอนารยชนแทบทั้งสิ้น ใช้วิธีปกติเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ซึ่งการใช้รัฐธรรมนูญหลายฉบับและรัฐประหารที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สะท้อนว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีปัญหาและยังไม่ได้รับการแก้ไข ที่สำคัญอำนาจเป็นของประชาชนหรือของใครกันแน่ จึงแสดงอาการของโรคคือการรัฐประหารออกมาเสมอ” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า รัฐธรรมนูญที่ใช้ได้เป็นเวลานาน เนื่องจากมีข้อตกลงร่วมกัน เช่น ฉบับ 10 ธันวาคม 2475 หรือฉบับปี 2540 แต่รัฐประหารปี 2549 เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับหลังที่ออกมาแบบมาเพื่อการกำจัดศัตรูทางการเมือง ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อฉันทามติร่วมกันของคนในสังคม แต่เพื่อแก้แค้นเอาคืนศัตรูทางการเมือง เมื่อลองไปแล้วไม่สำเร็จก็ต้องรัฐประหารซ่อมอีกครั้งเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 รัฐธรรมนูญ 4 ฉบับหลังจึงไม่สามารถสร้างฉันทมติและความสมานฉันท์ของคนในชาติได้ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่มาจากรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่เกี่ยว เป็นการร่างโดยกรรรมการร่างรัฐธรรมนูญ พูดให้ตายก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะเชื่อมโยงการยึดอำนาจของคสช. มีที่มาไม่ชอบธรรม 

“รัฐธรรมนูญ 2560 ยังขาดความชอบธรรมเรื่องการยกร่างที่ชงกันเอง ผลัดกันเกาหลัง วนเวียนอยู่ในอุตสาหกรรมของนักร่างรัฐธรรมนูญ นอกจากที่มาและกระบวนการไม่ชอบธรรม ยังมีปัญหาเรื่องเนื้อหาที่ทำให้การรัฐประหารถูกต้องจนกัลปาวสาน และดึงบ้านเมืองถอยหลังลงคลองย้อนไปในยุคประชาธิปไตยครึ่งใบเหมือนรัฐธรรมนูญปี 2521 ที่เลือกตั้งไปก็ได้ทหารคนเดิมกลับมาเป็นนายกฯ และกองทัพฝังตัวในการเมือง เอาการเลือกตั้งมาแต่งหน้าทาปากเพื่อบอกชาวโลกว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว  ไม่ใช่ประชาธิปไตยครึ่งใบ แต่เป็นเผด็จการครึ่งใบด้วยซ้ำ และยังเป็นรัฐธรรมนูญที่ขังประชาชนในห้องมืด ถ้าใครริอ่านจะแก้รัฐธรรมนูญต้องผ่านด่านจำนวนมาก ต่อให้แก้รัฐธรรมนูญอย่างไรก็อาจเกิดนายปราการด่านสุดท้ายคือศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่ให้แก้” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า เราจะออกจากรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เป็นห้องปิดตายได้อย่างไร ก็ต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้นว่าอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน ประชาชนเป็นผู้ทรงสิทธิ์ก่อตั้ง แก้ไข ยกเลิกเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญได้เสมอ เพราะเป็นเจ้าของอำนาจ รัฐธรรมนูญจะต้องผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมออกแบบโดยประชาชนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ 13 ปีที่ผ่านมาประชาชนถูกขโมยอำนาจนี้ไปใช้กันเอง เขียนกันเอง

ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทวงคืนอำนาจการเขียนรัฐธรรมนูญให้กลับมาที่ประชาชนอย่างแท้จริง โดยต้องรณรงค์อย่างแข็งขัน เพื่อให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาให้ได้ เมื่อประชาชนมีฉันทามติร่วมกัน จะไม่มีใครต้านทานได้ จึงขอชวนเชิญทุกสีทุกฝ่ายให้มาร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ