- หากยื่นขอสิทธิ์จำนวนมาก อาจต้องขอรับจัดสรรงบประมาณ
- ลดอัตราเงินสมทบนายจ้างเหลือ 4% ผู้ประกันตนมาตรา 33 เหลือ 1%
- ย้ำภารกิจความมั่นคงทางสังคมแก่ผู้ประกันตน
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความมั่นใจว่าสำนักงานประกันสังคมมีความพร้อมในการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน ให้แก่ผู้ประกันตนทุกคนที่จะมีสิทธิ โดยสำนักงาน ได้เตรียมสภาพคล่องพร้อมจ่ายเงินให้ผู้ประกันตนได้ทันที ที่ตรวจสอบสิทธิ์เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามต่อความกังวลของหลายท่านในเรื่องความพอเพียงของกองทุน กรณีว่างงานนั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้กระทรวงแรงงานเตรียมความพร้อมจัดทำแผนการเงิน เพื่อรองรับในกรณีที่มีคนขอรับสิทธิประโยชน์ในกรณีว่างงานเป็นจำนวนมากในกรณีจำเป็นอาจต้องขอรับจัดสรรงบประมาณ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ก็สามารถจัดทำแผนขอรับเงินในส่วนนี้ได้
ทั้งนี้ยืนยันว่า สำนักงานประกันสังคมมีภารกิจในการให้ความมั่นคงทางสังคม แก่ผู้ประกันตน ในช่วงภาวะวิกฤตจากไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ ตามมาตรการโดยสรุป ดังนี้
1. ลดอัตราเงินสมทบนายจ้าง เหลือ 4% ผู้ประกันตนมาตรา 33 เหลือ 1% และผู้ประกันตนมาตรา 39 เหลือ 86 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (มีนาคม – พฤษภาคม 2563)
2. ขยายระยะเวลานำส่งเงินสมทบ ของนายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 สำหรับงวดเดือน มีนาคม – พฤษภาคม ออกไปอีก 3 เดือน
– ค่าจ้างเดือน มีนาคม 2563 ให้นำส่งภายใน 15 กรกฎาคม 2563
– ค่าจ้างเดือน เมษายน 2563 ให้นำส่งภายใน 15 สิงหาคม 2563
– ค่าจ้างเดือน พฤษภาคม 2563 ให้นำส่งภายใน 15 กันยายน 2563
3. เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย กรณีผู้ประกันตนไม่ได้ทำงาน หรือนายจ้างไม่ให้ทำงานกักตัว 14 วัน เนื่องจากสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 และกรณีผู้ประกันตน ไม่สามารถทำงานได้และไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างนั้น ไม่ว่านายจ้างจะหยุดประกอบกิจการเอง หรือหยุดประกอบกิจการตามคำสั่งของทางราชการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตราย ให้ได้รับเงินว่างงาน 62% ของค่าจ้างรายวัน ไม่เกิน 90 วัน
4. เพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีว่างงาน ให้ผู้ประกันตนที่ลาออก ให้รับเงินกรณีว่างงาน 45% ของค่าจ้างไม่เกิน 90 วัน และผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างรับเงินกรณีว่างงาน 70 %ของค่าจ้าง ไม่เกิน 200 วัน ทั้งสองกรณีนั้น (บังคับใช้ 2 ปี)
“ขอให้ผู้ประกันตน มั่นใจว่า สำนักงานประกันสังคม จะระมัดระวังในการบริหารจัดการกองทุน วางแผนการเงินที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ประกันตนสูงสุด สมตามเจตนารมณ์ในการจัดตั้งกองทุนประกันสังคมต่อไป”
