

รายงานข่าวจากผู้นำเข้าบุหรี่จากต่างประเทศ กล่าวว่า หากรัฐบาลมีการปรับภาษีบุหรี่ โดยแบ่งภาษีมูลค่า 2 ขั้น ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบการทุกราย โดยผู้นำเข้ากำลังเตรียมพร้อมสำหรับโครงสร้างภาษีใหม่ โดยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในทุก ๆ สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหากโครงสร้างภาษีใหม่มีความเรียบง่าย เช่น กำหนดอัตราภาษีเพียงอัตราเดียว ก็คาดได้ว่าผู้นำเข้าจะเพิ่มราคาบุหรี่เพื่อทำกำไรมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เนื่องจากสามารถแข่งขันในราคาที่แตกต่างกันได้ดีกว่าและจะส่งผลดีต่อเกษตรกรชาวไร่ยาสูบด้วย
อย่างไรก็ตาม หากโครงสร้างภาษีใหม่ออกแบบมาเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อ ยสท. และกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันและทำกำไรของผู้นำเข้า คาดว่าผู้นำเข้าจะลดราคาสินค้าเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด และเกิดสงครามราคาในตลาดตามมา
สำหรับกรณีที่ ยสท. ระบุว่าหากโครงสร้างภาษีใหม่สรุปออกมาภายในปีนี้ จะสามารถขายบุหรี่ได้ในราคาประมาณ 50 บาทต่อซอง เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดและแข่งขันกับบุหรี่เถื่อนนั้น การเก็บภาษีภายใต้โครงสร้างภาษีปัจจุบันทำให้ราคาขั้นต่ำของบุหรี่เป็น 60 บาท ดังนั้น ความตั้งใจของ ยสท. ในการกำหนดราคาบุหรี่ราคา 50 บาท ชี้ให้เห็นว่า อาจมีการเสนอให้ลดภาษีภายใต้โครงสร้างภาษีใหม่ เพื่อช่วยเหลือ ยสท. และก่อให้เกิดผลร้ายกับผู้นำเข้า ซึ่งเป็นไปได้ว่าโครงสร้างใหม่อาจจะมีการแบ่งอัตราภาษีเป็น 3 อัตรา โดยมีเทียร์ใหม่ซึ่งเสียภาษีในอัตราที่ต่ำลง
ทั้งนี้การลดภาษีหรือเพิ่มเทียร์ใหม่นี้อาจทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของกระทรวงการคลังซึ่งไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรายได้และดูแลสุขภาพของคนในสังคมจากอันตรายของการสูบบุหรี่