“บิ๊กตู่”แจงปิดท้ายเวทีซักฟอก โต้ข้อกล่าวหารัฐบาลค้าความตาย ปมบริหารโควิด ยันไม่ย่อท้อ เชื่อฟ้าหลังฝนสดใสเสมอ

วันที่ 3 ก.ย.64 เมื่อเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ หลังจากที่มีเหตุวิวาทะและประท้วงระหว่างส.ส.พรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลต่อกรณีสิทธิการซักถามเพิ่มเติม โดยได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ต้องการคลี่คลายบรรยากาศที่ดูเหมือนซีเรียสไปสักนิด และที่ต้องมาเปิดหน้ากากอภิปรายชี้แจง เพราะกลัวว่าจะมีคนมานับว่าผมสูดหายใจกี่ครั้ง พร้อมกับเปิดคลิปประชาชนที่ขอบคุณรัฐบาลและหน่วยงานราชการ อาทิ แพทย์ สาธารณสุข จากสถานการณ์โควิด-19

“เป็นเรื่องดีๆ ที่ต้องฟังประชาชน สิ่งที่เป็นปัญหาต้องแก้ไข รัฐบาลไม่ทิ้งใคร สถานการณ์โควิด-19 เหมือนพายุลมแรงมาก พัดผ่านแต่ละพื้นที่และจะลมแรง ไม่รู้ว่าสงบเมื่อใด เชื่อว่าประเทศไทยจะรับมือได้ดีจากการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย โดยผลจากการทุ่มเทของบุคลากรทางการแพทย์ทำให้รักษาชีวิตได้มากกว่า2 เท่าเมื่อเทียบเกณฑ์เฉลี่ยทั้งโลก” พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจง

ส่วนข้อกล่าวหาว่าการมีคนตายเพราะโรคระบาดโควิด เท่ากับรัฐบาลค้าความตายนั้น ตนว่าไม่เป็นธรรม และเป็นอันตราย เหตุใดจึงไม่พิจารณากลับด้านดูบ้างว่าทุกวันนี้ อัตราการหายป่วยของไทยมากกว่า 85% ต่อผู้ติดเชื้อในประเทศ มีผู้ป่วยสะสม 1.23 ล้านคน หายป่วยไปแล้ว 1.05 ล้านคน ท่านไม่เคยพูด และจากการที่ผู้ติดเชื้อหายป่วยก็ด้วยความเสียสละ ความร่วมมือ ความทุ่มเท ของบุคคลากรทางการแพทย์ด้านน้าและหน่วยสนับสนุนทั้งประเทศ และความร่วมมือของทุกคน และวัคซีน การบริหารงานของรัฐบาล ที่มีมาตรการต่างๆ ออกมาตามลำดับ ตลอดจนภาคเอกชน จิตอาสาต่างๆ ที่ร่วมกันมือช่วยกันรักษาชีวิตประชาชน ได้มากกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของโลกถึง 2 เท่า จึงขอชวนให้ทุกคนคิดและมองไปข้างหน้าว่าเราไม่อาจตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลั จนไม่กล้าที่จะทำอะไรเลย และเราไม่อาจจะกลับไปใช้ชีวิตที่เหมือนเดิมได้อีกต่อไป จึงจำเป้นต้องปรับตัวจำเป็นต้องหาแนวทางใหม่ในการข้ามพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน มีแนวทางการควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิต ปลอดภัยจากโควิด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนด้านเศรษฐกิจช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้รัฐบาลได้เตรียมการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ และการจ้างงานเพื่อรองรับคนว่างงานและนักศึกษาจบใหม่ โดยทุกมาตรการจะดำเนินการอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ หัวใจสำคัญคือการสร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ ขยายโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง อย่างไรก็ตาม ปี 64 เป็นปีแห่งความท้าทายเนื่องจากเป็นปีที่จะประคับประคองเศรษฐกิจท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด ทุกคนควรใช้โอกาสนี้เดินหน้าประเทศ โดยยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลที่จะเดินหน้าต่อจากนี้ ประกอบด้วย การต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนในภูมิภาค การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อต่อสู้กับสภาวะโลกร้อน อุตสาหกรรมเดิมต้องเข้มแข็ง การสร้างภูมิคุ้มกันและแต้มต่อให้ SMEs เพื่อสร้างโอกาสด้านต่างๆ สร้างการจ้างงาน การปฏิรูปและการพัฒนาระบบการบริหารงานภาครัฐ

“3 วันที่ผ่านมาได้ยินข้อมูล และประเด็นต่างๆ ผมยินดีรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะ รัฐบาลจะนำไปปรับปรุงลดจุดอ่อนในการทำงาน ที่มีอยู่บ้าง ทั้งนี้ผมขอให้คำมั่นกับประชาชน ว่าจะทำงานให้คนไทยทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปพร้อมกับชาวโลก และร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อทำหน้าที่ให้ดีที่สุด นำพาประเทศก้าวสู่อนาคต อย่างมั่นคั่ง มั่นคง ไม่ย่อท้อ เราชาวไทยเชื่อว่า ฟ้าหลังฝนย่อมสดใส แม้ไม่มีใครบอกได้ว่าโควิด-19 จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่หากมีความหวัง ความศรัทธา จะก้าวข้ามความลำบาก พร้อมกับความรัก ความสามัคคีคนชาติ จะขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ”