สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตในประเทศบราซิลจากการป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่งขึ้นแซงหน้าประเทศอังกฤษขึ้นไปอยู่อันดับสองรองจากสหรัฐฯ แล้วพร้อมกับปัญหาระบบสาธารณสุขของประเทศได้รับความกดดัน
ดร.ไมค์ ไรอัน ผู้เชี่ยวชาญด้านฉุกเฉินจากองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่าจากข้อมูลที่พบเห็นระบบสาธารณสุขของบราซิล ผู้ป่วยโควิด-19 ไม่ถึงกับล้นโรงพยาบาล มีเพียงไม่กี่แห่งห้องฉุกเฉินรับผู้ป่วยเกิน 80% ยังสามารถรองรับผู้ป่วยหนักได้อีก
กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,200 รายต่อวันนับตั้งแต่วันอังคาร โดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตพุ่งรวม 41,901 ราย ขึ้นแซงหน้าอังกฤษที่มียอดรวม 41,181 ราย
บราซิลอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดระดับสูงอย่างชัดเจนในเมืองที่มีประชากรหนาแน่น มีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ในอันดับสองรองจากสหรัฐ มีจำนวนผู้ป่วน 829,902 ราย โดยวันศุกร์ที่ผ่านมามีตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นถึง 25,982 ราย
ขณะที่ “ฌาอีร์ โบลโซนารู” ประธานาธิบดีแห่งบราซิลได้เคลื่อนไหวเรียกร้องให้ลดข้อจำกัดการกักกันตนเองและธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินการใหม่ได้
ผู้นำฝ่ายขวารายนี้ ระบุว่าไวรัสโควิด-19 เป็นเพียง “ ไข้หวัดเล็กน้อย” และกล่าวหารัฐบาลของรัฐว่ามีการายงานจำนวนการติดเชื้อและการเสียชีวิตที่เกินจริงเพื่อบ่อนทำลายเขา
ในคืนวันพฤหัสบดี .โบลโซนารู” ได้กระตุ้นให้ผู้สนับสนุนของเขา หาทางเข้าไปข้างในโรงพยาบาลเพื่อถ่ายทำว่าเตียงรับผู้ปวยไอซียูมีการใช้หรือไม่เพื่อให้ภาพที่ตำรวจและหน่วยข่าวกรองของบราซิลเข้าไปตรวจสอบ
ขณะที่ห้างสรรพสินค้าได้กลับมาเปิดให้บริการในวันพฤหัสบดี มีนักช้อปชาวบราซิลเข้าแถวเป็นเวลาหลายชั่วโมงและอัดแน่นไปด้วยในสองเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศคือเมือง ในเซาเปาโลและริโอ และในวันศุกร์ผู้คนยังหลั่งไปไหลไปช้อปปิ้งสูงเทียบเท่ากับวันวาเลนไทน์
สำหรับชายหาดโคปาโคบานา ซึ่งเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดปกติจะมีคราคร่ำด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ได้มีกลุ่มนักเคลื่อนไหว Rio de Paz ขุดหลุมศพปลอมขึ้นมาราว 100 หลุม เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ในการต่อสู้ของประเทศกับโรคระบาดนี้