นายกฯ ปลื้มข้อมูลรายงานพื้นที่ศูนย์ข่าวสีเขียว APEC 2022 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

.ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก
.ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้
.ไม่มีประเทศไหนต่อสู้กับความท้าทายเรื่องสิ่งแวดล้อมได้เพียงลำพัง

นายอนุชา บรูพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานประเมินปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจก ณ พื้นที่ “ศูนย์ข่าวสีเขียว” ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งการจัดการประชุมเอเปกของไทยในปีนี้ เน้นความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเด็นปัญญาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะที่เกี่ยวโยงกับภาวะโลกร้อน โดยมีรายงานระบุว่า ในพื้นที่บริเวณ “ศูนย์ข่าวสีเขียว” ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน นั้น เมื่อประเมินปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจกแล้ว ไทยสามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ 14,969.02 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ หรือเทียบเท่ากับ การดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ถึง 1,663 ต้น ต่อปี (APEC 2022 Thailand | Bangkok | Facebook)

ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการให้การจัดการประชุมครั้งนี้เป็น showcase ส่งข้อความถึงโลกว่าปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ปัญหาของประเทศใดเพียงหนึ่งประเทศ แต่เป็นปัญหาสังคมของโลก และเราจะบรรเทาปัญหานี้ได้หากทุกประเทศทุกเขตเศรษฐกิจในโลกร่วมมือกัน ไทยในฐานะเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปกในปีนี้ ได้ผลักดันการตระหนักรู้เกี่ยวกับ โมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy Model) เพื่อความยั่งยืนมาตลอดการเตรียมการจัดการ และประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนี้จะรวมอยู่ใน Bangkok Goals on BCG Economy ซึ่งมี 4 เป้าหมาย 1.การจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความเป็นกลางทางคาร์บอน 2.การค้าการลงทุน ส่งเสริมการลงทุนภาคสีเขียว 3.การจัดทรัพยากรที่ยั่งยืน และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และ4.การบริหารจัดการขยะ

“นายกฯ ตระหนักถึงประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ และทราบในหลักการว่าไม่มีประเทศไหนต่อสู้กับความท้าทายเรื่องสิ่งแวดล้อมได้เพียงลำพัง การพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีต้องควบคู่ไปกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ไทยจึงมุ่งหวังว่า Bangkok Goals on BCG Economy เป้าหมายกรุงเทพฯ เรื่องเศรษฐกิจ BCG จะเป็นเข็มทิศให้กับการทำการค้าการลงทุนระหว่างกันของ 21 เขตเศรษฐกิจที่เป็นสมาชิกเอเปกนับจากนี้ไป และจะมีการรับรองในปลายสัปดาห์นี้”