นายกฯวอนเจ้าของธุรกิจอย่าเลิกจ้างงานเวลานี้ทุกคนลำบากเดือดร้อน

.รัฐบาลไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมด

.ให้ถือว่าเป็นพี่น้องคนไทยด้วยกัน

.การปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีก็ขอให้อย่าทิ้งลูกจ้าง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน พิธีประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2563 (Prime Minister’s Export Award 2020) โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมงาน ณ ตึกสันติไมตรี ทําเนียบรัฐบาล โดยมีผู้ส่งออกเข้ารับรางวัลผู้ส่งออกดีเด่น 34 บริษัท รวม 37 รางวัล โดยพล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า อยากให้เอาวิกฤติตอนนี้ในโลกยุคนิว นอร์มอล (ชีวิต วิถีใหม่)มาเป็นโอกาสเนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีทรัพยากรมากทุกมิติทั้งด้านเกษตรกรรม อาหาร การทำหีบห่อ และต้องคิดผลผลิตใหม่ของธุรกิจให้มากขึ้น รัฐบาลก็ส่งเสริมการวิจัยนวัตกรรม การนำวัสดุเหลือใช้มาผลิตสินค้า โดยมีสินค้าหลายชนิดที่มีการขึ้นทะเบียน และผู้ประกอบการไทยต้องทำทั้งการรับจ้างผลิตและสร้างแบรนด์ให้สินค้าของตัวเอง

ขณะเดียวกัน ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ขอฝากไปยังผู้ประกอบการว่า เวลานี้ทุกคนลำบากเดือดร้อน โดยเฉพาะลูกจ้างพนักงาน ขอขอบคุณหลายบริษัทที่ช่วยรัฐบาล ช่วยลูกน้องตัวเองไม่ลดการจ้างงาน รัฐบาลไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมดอยู่แล้ว และใช้เงินจำนวนมากดูแลช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คงไม่พอ จึงฝากผู้ประกอบการธุรกิจที่ได้รับรางวัลและไม่ได้รับรางวัลให้ดูแลกันด้วย อย่างไรก็เป็นพี่น้องคนไทยด้วยกัน มีฝีมือ หากตกงานก็ไม่รู้จะไปที่ไหน ขอช่วยหาวิธีการที่เหมาะสมปรับตัวในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ซึ่งรัฐบาลเองก็ต้องปรับตัว เมื่อโลกเปลี่ยนเราต้องปรับ หากไม่ปรับก็ไม่ทันโลก และในห่วงโซ่การผลิตสินค้ามีอุตสาหกรรมที่เป็นเอสเอ็มอีเกี่ยวข้องหลายสิบล้านราย ตั้งแต่วัสดุตั้งต้นในการผลิต วัสดุแปรรูป ถ้าสามารถดูแลไปได้จะช่วยบรรเทาการใช้งบประมาณของรัฐบาลไปได้บ้าง


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในโลกยุคอุตสาหกรรม4.0 โลกกำลังจะไป 5.0 จากยุค 4 จี ก็จะไป 5 จี มีการใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย ประกอบกับ การพัฒนาทักษะผู้ผลิต การนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาใช้เป็นเรื่องสำคัญ ขอฝากท่านอย่าทิ้งลูกจ้าง พนักงาน ต้องพัฒนาให้ควบคู่ไปด้วย เราอยู่ในยุค แต่เมื่อลดคน ในแต่ละบริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ หรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ถ้าเราใช้เทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด ก็จะต้องหาทางดูแลลุกจ้างพนักงานของบริษัทไว้ด้วย เพราะเขาเป็นผู้นำในครอบครัวเหมือนกัน ตอนนี้เรากำลังจะเปลี่ยนผ่านตรงนี้ สิ่งสำคัญที่สุดต้องฝึกคนให้ทำงานกับเครื่องจักรได้ เพราะการเอาไปใช้ทีเดียวคงลำบาก เป็นปัญหาที่ฝากให้เจ้าของบริษัทช่วยดูแลด้วย โดยเฉพาะช่วงนี้เกิดวิกฤติโควิด-19 สิ่งสำคัญที่สุดคือความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจ ความเข้าอกเข้าจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน จิตสำนึกร่วมกัน เป็นรากฐานจะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ไวรัสโควิด-19 กระทบกับการค้า การส่งออก บางคนว่ารัฐบาลบริหารบริหารไม่ดี คงต้องมองในภาพรวมด้วย โลกมีปัญหาทุกประเทศ ในช่วงนี้การสั่งซื้อสินค้าก็ต้องลดลง แต่ถ้าเราเข้มแข็งพอ เดินหน้าสู้ไปให้ได้ เราจะใช้เวลาเหล่านี้ฟื้นฟูกิจการและฟื้นฟูประเทศได้เร็วยิ่งขึ้น ตอนนี้ต้องยอมรับว่ารัฐบาลสามารถบริหารจัดการการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีมากระดับต้นๆของโลกหรือของอาเซียน การจะขับเคลื่อนทุกอย่างให้ก้าวหน้าเร็วขึ้นรัฐบาลทำคนเดียวไม่ไหว ก็ต้องอาศัยผู้ประกอบการธุรกิจเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เพราะภาษีที่ได้จากผู้ประกอบการก็คือรายได้ของรัฐบาล และนำกลับมาบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเมื่อเก็บภาษีได้ลดลง แต่ค่าใช้จ่ายมากขึ้น รัฐบาลก็ต้องระวังอย่างมากที่สุด ขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจและให้เกิดการบริโภคในประเทศมากขึ้น