นายกฯยืนยันลูกจ้างในระบบประกันสังคมได้เงินทดแทนว่างงานทุกกรณีจากผลกระทบโควิด-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม



  • การใช้เงินกู้แก้ปัญหาทุกเองต้องผ่าน ครม.
  • วอนประชาชนอย่าเชื่อข่าวตามสื่อโซเชียล
  • เตรียมเงินช่วยเหลือคนตกค้างในต่างประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ได้พิจารณากรณีประโยชน์ทดแทนการว่างงานของผู้ประกันตน โดยได้อนุมัติหลักการให้กระทรวงแรงงานร่างกฎกระทรวง 2 ฉบับ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทน จากการว่างงานใน 2 กรณี คือ กรณีเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และเกิดเหตุสุดวิสัย

ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับ “ประโยชน์ทดแทนการว่างงาน” ที่ครอบคลุมการว่างงานจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในครั้งนี้ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมด้วย เช่น การว่างงาน เนื่องจากการให้ปิดเมือง การออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือการประกาศเคอร์ฟิว รวมทั้งการให้หยุดประกอบกิจการดังกล่าว ที่มิได้เป็นผลจากคำสั่งของทางราชการ “โดยตรง”

นอกจากนี้ ลูกจ้างยังคงมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือจาก “กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง” ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานด้วย

ส่วนกรณีการใช้จ่ายงบประมาณเงินกู้ หรืองบประมาณใดก็ตาม ที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาโควิด ในการสาธารณสุข เยียวยา ดูแล ฟื้นฟูประชาชนทุกภาคส่วน จะมีคณะกรรมการพิจารณา ติดตาม กำกับดูแล คัดแยก เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น ผอ.ศบค. และนำเข้า ครม.เพื่ออนุมัติก่อน จึงจะดำเนินการได้ เรื่องใดก็ตามที่หลุดออกมาเป็นข่าว ตามสื่อโซเชียล หากไม่ผ่านมติ ครม.อนุมัติ ก็ถือว่าเป็นข่าวปลอม เชื่อถือไม่ได้ ทั้งนี้ เพื่อไม่ต้องการให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชน

“ปัจจุบันยังคงปรากฎมี “ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน”อย่างต่อเนื่อง เฉพาะเมื่อวันที่ 9 เม.ย.นี้ มีคดีจำนวนทั้งสิ้น 26 คดี จับกุม แจ้งข้อหา จำนวน 10 คดี มีผู้ต้องหา 13 ราย และออกหมายเรียกผู้ต้องหาอีก จำนวน 3 คดี”

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา เน้นการกักกันผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ 14 วัน ปัจจุบัน ได้มีมาตรการชะลอการเดินทางกลับของชาวไทยในต่างประเทศ ออกไปจนถึงวันที่ 18 เมษายน เนื่องจากข้อเท็จจริงตามสถิติ ชี้ให้เห็นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น “ส่วนใหญ่” มาจากผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังพิจารณามาตรการช่วยเหลือเยียวยา เพื่อลดผลกระทบในระหว่างที่ต้องอาศัยในต่างแดน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ในรูปแบบ “เงินช่วยเหลือ” เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย เป็นต้น