นายกรัฐมนตรีไฟเขียวกระทรวงคลังจัดงบประมาณกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการผลักดันการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องของการท่องเที่ยวทั้งส่วนของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและการส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวในประเทศ โดยในส่วนของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายกระทรวงการคลังให้พิจารณาจัดงบประมาณสนับสนุนตามความเหมาะสม จัดลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายงบประมาณกับการดูแลประชาชนในโครงการอื่น ๆ

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมีกิจกรรมเพื่อสร้างความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้คนไทยเที่ยวในประเทศ ลดการออกไปเที่ยวต่างประเทศ ช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศและช่วยดูแลไม่ให้เงินไหลออกจากประเทศด้วย

นางสาวไตรศุลี กล่าวต่อว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน ในการจัดกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ ตามแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” มีกลยุทธ์แบบพุ่งเป้าสร้างความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์วันวานเมืองเหนือ, เทรนดี้ C2ภาคกลาง, สบ๊ายสบาย ภาคตะวันออก, หลงรักแผ่นดินอีสาน และหรอยแรงแหล่งใต้

อย่างไรก็ตามจากที่ได้เล็งเห็นความสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้ต่อเนื่อง คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ได้อนุมัติหยุดราชการปี 2565 เพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ได้แก่วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม, วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม, วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม และวันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2565 เพื่อให้มีวันหยุดยาวเชื่อมโยงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

“นายกฯ ย้ำกับทุกหน่วยงานว่า การผลักดันฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวต้องให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้สู่เมืองรอง ผลักดันการท่องเที่ยวชุมชน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เพื่อให้ความเข้มแข็งเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับฐานรากของเศรษฐกิจ” นางสาวไตรศุลีกล่าว

ทั้งนี้ ปี 2565 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ตั้งเป้าส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวทั่วประเทศในปีนี้ 160 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 6.56 แสนล้านบาท โดยเป็นการเดินทางท่องเที่ยวและรายได้ที่เกิดขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย กรุงเทพฯ 26.69 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 2.03 แสนล้านบาท , ภาคกลาง 19.02 คน-ครั้ง รายได้ 2.98 หมื่นล้านบาท , ภาคตะวันตก 23.86 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 6.11 หมื่นล้านบาท ,ภาคตะวันออก 17.99 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 8.74 หมื่นล้านบาท ,ภาคใต้ 22.14 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 1.05 แสนล้านบาท , ภาคเหนือ 20.66 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1.10 แสนล้านบาท ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 26.62 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 5.88 หมื่นล้านบาท