- แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มค้าปลีกช่วยหนุนตลาด
- Black Friday ผู้บริโภคสหรัฐเน้นช้อปปิ้งออนไลน์
- ดัชนีแนสแด็กพุ่งแรง ปิดนิวไฮทำลายสถิติสูงสุดวันที่2
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 27พ.ย.ที่ 29,910.37 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 37.9 จุด หรือ +0.13%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,638.35 จุด เพิ่มขึ้น 8.7 จุด หรือ +0.24% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดทำลายสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 2 โดยปิดที่ 12,205.85 จุด เพิ่มขึ้น 111.44 จุด หรือ +0.92%
การซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างเบาบาง ขณะที่มีการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์ หลังจากตลาดปิดทำการในวันพฤหัสบดีเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มค้าปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคสหรัฐเริ่มทำการช้อปปิ้งออนไลน์ในช่วงเริ่มต้นเทศกาลวันหยุดปลายปี หรือ Black Friday (วันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า) ขณะที่กลุ่มพลังงานปรับลดลง
หุ้นค้าปลีกออนไลน์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ท่ามกลางการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในสหรัฐเพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีการเสนอส่วนลดราคาอย่างมากเพื่อดึงดูดผู้บริโภค ซึ่งยอดขายในธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่โดยหุ้นแอมะซอน บวก 0.32% และหุ้นอีเบย์ ปรับตัวขึ้น 1.76%
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ และบริษัทยาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยนักลงทุนได้ขานรับข่าวการพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์, บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ และบริษัทอื่นๆ ซึ่งทำให้มีความหวังว่าจะสามารถหยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิดได้
หุ้นโมเดอร์นา พุ่งขึ้น 16.35% และหุ้นไฟเซอร์ เพิ่มขึ้น 1.92%
หุ้นกลุ่มผลิตชิปปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นอินเทล บวก 0.85% และหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส (AMD) บวก 0.59%
หุ้นเทสลา ยังคงปรับตัวขึ้นต่ 2.05% แม้หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐได้เปิดการสอบสวนประเด็นระบบกันสะเทือนด้านหน้ารถยนต์ไฟฟ้าจำนวนราว 115,000 คันของเทสลาก็ตาม
ส่วนหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ลบ 1.3% หลังบริษัทเปิดเผยว่า จะปลดพนักงานราว 32,000 คน เพิ่มขึ้นจาก 28,000 คนที่ประกาศก่อนหน้านี้ โดยจะมีการปรับลดพนักงานส่วนใหญ่ในธุรกิจสวนสนุก
หุ้น iQIYI ซึ่งให้บริการด้านวิดีโอสตรีมมิ่ง ร่วง 1.7% หลังสื่อรายงานว่า บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์และบริษัทเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ของจีนได้ระงับการเจรจาเพื่อซื้อกิจการของ iQIYI
