“นภินทร”สั่งลุยอำนวยสะดวกค้าชายแดน-ผ่านแดน

“นภินทร” ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เร่งอำนวยความสะดวกทางการค้าชายแดนและผ่านแดน รองรับส่งออกผลไม้ไปจีน มั่นใจช่วยดันส่งออกผลไม้ไทยเพิ่มขึ้นได้แน่นอน

  • เร่งเจรจาจีนขยายเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดนตงชิง
  • เตรียมพร้อมส่งออกผลไม้ไปจีนก่อนส่งออกจริงมี.ค.นี้
  • มั่นใจปีนี้ส่งออกผลไม้ไปจีนขยายตัวจากปีก่อนได้แน่

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.67 ได้ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร พร้อมทั้งเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน จังหวัดมุกดาหารและนครพนม โดยได้รับฟังสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนจาก 2 ด่าน คือ ด่านมุกดาหาร ที่มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนในปี 66 มากกว่า 340,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากปี 65 และด่านนครพนม มีมูลค่าการค้ารวมมากกว่า 100,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.5% จากปี 65

ทั้งนี้ ในการประชุม ได้เร่งรัดผลักดันการอำนวยความสะดวกทางการค้า ได้แก่ การเร่งจัดทำ E-Wallet ชำระเงินด้วย QR Code ร่วมกันของธนาคารไทยและธนาคารของ สปป.ลาว ที่คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ช่วงไตรมาส 2 ของปี 67 ซึ่งจะช่วยให้คนลาวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยมากขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคไปสู่ระดับ SME และการเร่งเจรจาให้จีนขยายเวลาเปิดทำการด่านตงซิง เขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วง ในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อรองรับฤดูกาลผลไม้ไทย พร้อมทั้ง เร่งกำชับการเพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเพิ่มเติมนอกเวลาทำการที่ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว (One Stop Service หรือ OSS) นครพนม ในช่วงฤดูกาลส่งออกผลไม้ ที่มีรถส่งออกผลไม้เฉลี่ยวันละ 200 คัน

นอกจากนี้ ยังได้ติดตามการปฏิบัติงานของ OSS จังหวัดมุกดาหาร ที่เริ่มเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.67 เป็นต้นมา ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการติดต่อขอเอกสารต่างๆ จาก 3-4 ชั่วโมง เหลือเพียง 1 ชั่วโมง ทำให้กระบวนการส่งออกสินค้าชายแดนและผ่านแดนมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

“ด่านมุกดาหาร และด่านนครพนม เป็นอีกเส้นทางสำคัญที่ใช้ส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ซึ่งฤดูกาลผลไม้ไทยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไป จึงได้รีบเร่งรัดและกำชับให้ทุกหน่วยงานช่วยกันอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งการเจรจาการขยายเวลาเปิดด่านตงซิง ซึ่งเป็นอีกด่านที่มีความพร้อมสำหรับนำเข้าผลไม้ไทยที่ส่งออกจากนครพนม รองจากด่านโหย่วอี้กวาน มั่นใจว่า การเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่และความพร้อมของศูนย์ OSS ที่นครพนม และมุกดาหาร จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการส่งออก และทำให้การส่งออกผลไม้ไทยในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้นได้แน่นอน”