- นั่งเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่น้ำท่วม บริเวณ อ.บ้านไผ่ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
- มอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยยืนยัน รัฐบาลไม่ทิ้ง ปชช.อยู่ลำพัง
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะทำงาน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนโพดุล ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ถนนทั้งเส้นหลักและเส้นรองถูกน้ำท่วมใช้การไม่ได้
โดย ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะ นั่งเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่น้ำท่วม บริเวณ อ.บ้านไผ่ พร้อมรับฟังรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า น้ำที่ อ.บ้านไผ่ทยอยไหลลงสู่แก่งละว้าแล้ว ซึ่งตอนแรกก่อนที่จะมีพายุโพดุลมีปริมาณน้ำอยู่ประมาณ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่เพียง 1 คืนจากเมื่อวานนี้ปริมาณน้ำในแก่งละว้าได้เพิ่มจาก 12 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็น 45 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือเป็นพื้นที่รับน้ำหลักจาก ในพื้นที่ อ. บ้านไผ่ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำก่อนไหลลงสู่ลำน้ำชี ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด บริเวณความสูงของระดับน้ำในลำน้ำชีเมื่อเทียบกับความสูงของตลิ่งยังมีระยะห่างกันอยู่ประมาณ 3 เมตร ยังสามารถรองรับน้ำได้
ทันทีที่เดินทางถึง อ.บ้านไผ่ จุดแรก ร.อ.ธรรมนัสได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลบ้านไผ่ เพื่อมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือประชาชน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ได้รับบาดเจ็บจากการช่วยเหลือน้ำท่วม รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือแก่นางศิลากร จันโทแพง ซึ่งลูกชายวัย 20 ปี เสียชีวิตจากไฟฟ้าช็อต ขณะช่วยเพื่อนบ้านขนของ พร้อมให้กำลังใจ ขณะเดียวกันได้มอบนามบัตรส่วนตัวให้สำหรับโทรขอความช่วยเหลือ จากนั้นเดินทางไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ศูนย์บัญชาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากพายุโพดุล บริเวณหน้าโรงเรียนกรุณาศึกษา อ.บ้านไผ่ พร้อมระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกคน จึงสั่งการให้คนลงมาติดตามสถานการณ์ พร้อม ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยเหลือประชาชน
ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ที่ อ.บ้านไผ่ เวลานี้ เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ถนนทุกสายสามารถใช้การได้ตามปกติ แต่สิ่งที่ต้องดูแลหลังจากนี้ คือพี่น้อง ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งเรื่องบ้านเรือน เครืองใช้ไฟฟ้า พืชผลทางการเกษตร ตลอดจนสัตว์เลี้ยงได้รับความเสียหาย ซึ่งทางรัฐบาลต้องดูแล ส่วนกรณีมีประชาชนถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตนั้น ตนเองได้เดินทางไปพบกับแม่และญาติผู้เสียชีวิตแล้ว ขณะที่ทางจังหวัดช่วยเรื่องค่าจัดการศพ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการไปแล้ว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์น้ำหลากที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากปริมาณฝนที่ตกหนัก จากพายุ ถือเป็นเหตุสุดวิสัย หลังจากนี้ต้องไปศึกษาว่าเหตุใดการระบายน้ำจึงช้า เพื่อแก้ไขไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำซ้อน ส่วนเรื่องการเยียวยาพื้นที่การเกษตร เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำรวจ พื้นที่เกษตร ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อเร่งเยียวยาตามกฎหมายต่อไป
หลังจากนั้น ร.อ.ธรรมนัส เดินทางต่อมายังสะพานขาว ซึ่งมีชาวบ้านจากชุมชนสะพานขาว หนีน้ำมาอาศัยอยู่หลายครอบครัว มีทั้งเด็กและคนแก่ ซึ่งชาวบ้านขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ เนื่องจากน้ำมาเร็วไม่สามารถขนย้ายสิ่งของใดๆออกมาได้เลย พังเสียหายทั้งหมด ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ได้มอบหมายให้ทางจังหวัดเข้ามาสำรวจความเสียหายเพื่อเร่งช่วยเหลือต่อไป ขออย่าเป็นห่วง และทุกคนต้องสู้ไปด้วยกัน
จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะเดินทางไปมอบถุงยังชีพให้แก่พี่น้องประชาชนชาว อ.บ้านไผ่ จำนวน 2,000 คน ที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่ พร้อมกับประชาชนว่าเราต้องสู้กับธรรมชาติ สู้ไปด้วยกัน รัฐบาลจะไม่ทิ้งพี่น้องประชาชน และไม่ปล่อยให้ท่านอยู่ตามลำพังอย่างแน่นอน
หลังลงพื้นที่ จ.ขอนแก่นเสร็จสิ้น ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปยัง ต.แวงน่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย
